คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไม่ถูกต้อง โจทก์จึงยื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านคำสั่งและขอให้กำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบใหม่ คำร้องโต้แย้งคัดค้านของโจทก์ เป็นการโต้แย้งคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)กรณีมิใช่คำร้องที่จะต้องยื่นภายใน 8 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คสองฉบับ จำนวน 62,250 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน60,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คทั้งสองฉบับตามฟ้องจริง แต่จำเลยจ่ายให้นายชาญชัย ฉัตรมงคล เป็นค่าจ้างล่วงหน้าในการติดตั้งไฟฟ้า แต่เมื่อนายชาญชัยรับเช็คไปแล้วยังไม่ติดตั้งไฟฟ้าให้ก็เสียชีวิต เช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงไม่มีมูลหนี้ โจทก์ได้รับเช็คพิพาททั้งสองฉบับมาโดยการคบคิดกันฉ้อฉล และรับโอนเช็คมาโดยไม่สุจริต จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานโดยกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์ได้รับเช็คมาโดยชอบหรือไม่ และให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน
ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมายื่นต่อศาล 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นคำร้องขอเลื่อนคดีทนายจำเลยคัดค้านการขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าโจทก์มีเจตนาประวิงคดีส่วนคำร้องอีกฉบับหนึ่งเป็นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดหน้าที่นำสืบใหม่ โดยโจทก์อ้างว่า ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนนั้นไม่ถูกต้อง ขอให้มีคำสั่งแก้ประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบใหม่โดยให้จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าโจทก์มีเจตนาประวิงคดี จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ฝ่ายจำเลยแถลงไม่สืบพยานส่วนที่โจทก์ขอให้กำหนดหน้าที่นำสืบใหม่นั้นยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม แล้วพิพากษาในวันเดียวกันนั้นให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 84 จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน จึงให้ยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่ โดยกำหนดให้จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อเท็จจริงได้ความว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่ให้โจทก์นำสืบก่อนโดยไม่ชอบโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดหน้าที่นำสืบใหม่ โดยให้จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อนในวันนัดสืบพยานโจทก์ แต่ศาลชั้นต้นไม่สั่งแก้ไขให้ และพิพากษายกฟ้องโจทก์ในวันเดียวกันนั้น กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าคำร้องของโจทก์ที่ได้ยื่นต่อศาลชั้นต้นนั้นเป็นคำโต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่กำหนดประเด็นข้อพิพาทโดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) เพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์และปรากฏว่าโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว คำร้องของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายตามที่บัญญัติไว้ดังกล่าว กรณีมิใช่คำร้องที่จะต้องยื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา27 วรรคสอง ดังที่จำเลยฎีกา
พิพากษายืน

Share