แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเล่นการพนันโปปั่นศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นหัวเบี้ยรับกินรับใช้ ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยฐานเป็นลูกค้าเข้าเล่นอย่างเดียวโดยลดโทษลง แม้จะสงเคราะห์ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก เมื่อศาลเดิมลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทโดยมิได้แก้บท เพียงแต่ลดโทษลง แต่ลงโทษไม่เกินกำหนดที่ว่านี้ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ย่อยาว
คดีนี้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเล่นการพนันโปปั่นโดยมิได้รับอนุญาต
จำเลยที่ 1 ให้การรับว่าเป็นลูกค้าผู้แทง หาได้เป็นเจ้ามือไม่
ศาลจังหวัดกระบี่เชื่อว่าจำเลยเป็นหัวเบี้ยรับกินรับใช้ดังโจทก์หา พิพากษาว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 จำคุก 3 เดือน ปรับ 600 บาท ลด 1 ใน 3 ตามมาตรา 59 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 400 บาทและให้จำเลยเสียค่าสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ ไม่ชำระจัดการตามมาตรา 18 กฎหมายอาญา
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คงฟังแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกค้าเข้าเล่นการพนันด้วยอย่างเดียว พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 300 บาท ลดตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งปรับ 150 บาท นอกจากที่แก้นี้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้รับกินรับใช้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้ว ถึงแม้จะสงเคราะห์คดีนี้ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก เมื่อศาลเดิมพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี กับปรับไม่เกิน 1,000 บาท และศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทกฎหมาย แต่ให้ลดโทษลง คงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่านี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์