คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5400/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์พิพาทของจำเลยแต่ยังไม่สามารถพาไปยึดได้เพราะไม่ทราบว่ารถยนต์พิพาทอยู่ที่ใด ต่อมาโจทก์ทราบว่าจำเลยจะจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของรถยนต์พิพาทในใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์ต่อนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานครขอให้งดการจดทะเบียนทุกประเภทหรือก่อให้เกิดภาระผูกพันเกี่ยวกับรถยนต์พิพาทไว้ก่อน ดังนี้ เป็นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำลังติดตามยึดรถยนต์คันพิพาทอยู่ การที่ขอให้งดจดทะเบียนหรือก่อให้เกิดภาระติดพันในรถยนต์พิพาทก็เพื่อมิให้เกิดปัญหายุ่งยากในการบังคับคดีเกี่ยวกับรถยนต์พิพาท จึงเป็นขั้นตอนหนึ่งของการยึดรถยนต์พิพาทเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจที่จะกระทำได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดี แล้วนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาด และต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดหรืออายัดรถยนต์พิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือลงวันที่ 29ตุลาคม 2530 ถึงนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานคร ขออายัดรถยนต์พิพาทโดยขอให้งดการจดทะเบียนทุกประเภทหรือก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่รถยนต์ดังกล่าว
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์พิพาท ขอให้ทำการไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเรื่องอายัดรถยนต์ของเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์คัดค้านว่า รถยนต์เป็นของจำเลย โจทก์สืบทราบว่าจำเลยกำลังจะโอนขายรถยนต์ดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้พ้นจากการบังคับคดี ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อช่วยเหลือจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งเรื่องขออายัดรถยนต์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่มีถึงนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานคร
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า โจทก์ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์พิพาทของจำเลยแต่ยังไม่สามารถพาไปยึดได้เพราะไม่ทราบว่ารถยนต์พิพาทอยู่ที่ใด และทราบว่าในวันนั้นจำเลยจะจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของรถยนต์พิพาทในใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์ต่อนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานคร ขอให้งดการจดทะเบียนทุกประเภทหรือก่อให้เกิดภาระผูกพันเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวไว้ก่อน ซึ่งเห็นได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีกำลังติดตามยึดรถยนต์คันพิพาทอยู่ การที่ขอให้งดจดทะเบียนหรือก่อให้เกิดภาระติดพันในรถยนต์พิพาทก็เพื่อมิให้เกิดปัญหายุ่งยากในการบังคับคดีเกี่ยวกับรถยนต์นั้นเพราะถ้าหากต่อมายึดรถยนต์พิพาทได้และทำการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องดำเนินการให้นายทะเบียนยานพาหนะโอนใส่ชื่อผู้ซื้อเป็นเจ้าของในใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์ถ้าหากปล่อยให้จำเลยจดทะเบียนโอนใส่ชื่อผู้อื่นเป็นเจ้าของในใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์เสียก่อนที่จะติดตามยึดรถยนต์พิพาทได้ก็ย่อมจะเกิดความขัดข้องเกี่ยวกับการบังคับคดี ฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้นายทะเบียนยานพาหนะกรุงเทพมหานครงดการจดทะเบียนทุกประเภทหรือก่อให้เกิดภาระผูกพันเกี่ยวกับรถยนต์พิพาท จึงเป็นขั้นตอนหนึ่งของการยึดรถยนต์พิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจที่จะกระทำได้หาเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังผู้ร้องอ้างไม่ เมื่อการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังวินิจฉัยแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเสียโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนว่าผู้ร้องทราบคำสั่งดังกล่าวของเจ้าพนักงานบังคับคดีตั้งแต่เมื่อใด
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้นเสีย

Share