คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่4ใช้ขวดน้ำอัดลมขนาดใหญ่ที่ทำจากวัสดุแข็งและมีน้ำอัดลมบรรจุอยู่บางส่วนอันทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น อาวุธตีทำร้ายผู้ตายบริเวณศรีษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญหลายครั้งแม้ขณะที่ผู้ตายล้มลงหมดสติไปแล้วก็ยังตีซ้ำอีกถึง3ถึง4ครั้งจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่หน้าผากและศรีษะภาวะสมองไม่ทำงานจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงไม่รู้สึกตัวไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวดหัวใจล้มเหลวและถึงแก่ความตายหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อยพฤติการณ์ของจำเลยที่4ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่4ตีทำร้ายผู้ตายโดยเจตนาฆ่า ก่อนที่ผู้ตายกับกลุ่มของจำเลยที่4จะมีเรื่องทะเลาะโต้เถียงท้าทายให้ออกมาชกต่อยกันจนพวกของจำเลยที่4ออกมาชกต่อยผู้ตายแล้วเกิดการชุลมุนต่อสู้จนผู้ตายถูกจำเลยที่4ใช้ขวดน้ำอัดลมขนาด1ลิตรตีทำร้ายถึงแก่ความตายผู้ที่ก่อเหตุให้เกิดพฤติการณ์ดังกล่าวก็คือผู้ตายกรณีจึงมีเหตุสมควรลดโทษจำเลยที่4

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ปฏิเสธ
ระหว่าง พิจารณา นาย บุญร่วม จำนงค์นิจ บิดา ของ นาย บุญช่วย จำนงค์นิจ ผู้ตาย ยื่น คำร้องขอ เข้าร่วม เป็น โจทก์ ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สี่ มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 วรรคหนึ่ง ลงโทษ จำคุก คน ละ 8 ปียกฟ้อง ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น
โจทก์ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย ที่ 4 มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้ จำคุก จำเลย ที่ 4 มี กำหนด 16 ปีนอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คดี มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลยที่ 4 ว่า การกระทำ ของ จำเลย ที่ 4 เป็น ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนาหรือไม่ จำเลย ที่ 4 กล่าวอ้าง มา ใน ฎีกา ว่า ไม่มี พยานโจทก์ ปาก ใดเบิกความ โดยชัดแจ้ง ถึง ขวด น้ำอัดลม ขนาด หนึ่ง ลิตร ที่ จำเลย ที่ 4ใช้ ตี ผู้ตาย ว่า มี ลักษณะ อย่างไร และ ทำ จาก วัสดุ อะไร แต่ โดย ทั่วไป แล้วจะ ทำ จาก วัสดุ ประเภท พลาสติก เมื่อ ขวด น้ำอัดลม ดังกล่าว ทำ จากพลาสติก และ เป็น ขวด เปล่า ย่อม จะ มี น้ำหนัก เบา ไม่อาจ ใช้ ตี ศีรษะให้ แตก ถึงแก่ความตาย ได้ อีก ทั้ง ขณะ เกิดเหตุ มี การ ชุลมุน ต่อสู้ กันจำเลย ที่ 4 ไม่สามารถ เลือก ทำร้าย ผู้ตาย ตรง อวัยวะ สำคัญ จำเลย ที่ 4จึง ไม่มี ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนา ศาลฎีกา เห็นว่า ถึง แม้พยานโจทก์ จะ ไม่ได้ เบิกความ ถึง ลักษณะ ของ ขวด น้ำอัดลม ที่ จำเลย ที่ 4 ใช้เป็น อาวุธ ตี ทำร้าย ผู้ตาย รวม ตลอด ถึง วัสดุ ที่ ใช้ ทำ ขวด น้ำอัดลม ใบ นั้นแต่ จาก ขนาด ของ ขวด น้ำอัดลม ดังกล่าว ที่ บรรจุ น้ำอัดลม ได้ ถึง หนึ่ง ลิตรแสดง ว่า ต้อง เป็น ขวด ขนาด ใหญ่ และ ทำ จาก วัสดุ ที่ แข็ง มิฉะนั้น คง จะ ใช้บรรจุ น้ำอัดลม ใน ปริมาณ ตาม ที่ กำหนด ไม่ได้ ประกอบ กับ ได้ความ ตาม ทางนำสืบ ของ โจทก์ จาก คำเบิกความ ของ ร้อยตำรวจตรี บุญโฮม ประวะโข ว่า ขวด น้ำอัดลม ที่ จำเลย ที่ 4 ใช้ เป็น อาวุธ ตี ทำร้าย ผู้ตาย มี น้ำอัดลมบรรจุ อยู่ ส่วน หนึ่ง นอกจาก นี้ ยัง ได้ความ จาก คำเบิกความ ของ นางสาว สุภา วังมูล และ นางสาว ดรุณี พิบูลย์ศิริกุล ว่า จำเลย ที่ 4ใช้ ขวด น้ำอัดลม ดังกล่าว ตี ที่ ศีรษะ ของ ผู้ตาย หลาย ครั้ง แม้ ขณะ ผู้ตายล้ม ลง หมด สติ ไป และ นางสาว ดรุณี กำลัง เข้า ไป ดึง ตัว ผู้ตาย ขึ้น มา จำเลย ที่ 4 ก็ ยัง คง ตี ผู้ตาย อีก 3 ถึง 4 ครั้ง จน กระทั่ง พวก ของ จำเลยที่ 4 ร้อง บอก ให้ หยุด จำเลย ที่ 4 จึง กระทืบ ที่ ศีรษะ ของ ผู้ตายแล้ว ทิ้ง ขวด น้ำอัดลม หลบหนี ไป พยาน โจทก์ดังกล่าว ล้วน แต่ อยู่ ใน ที่เกิดเหตุ ขณะ เกิดเหตุ โดย ร้อยตำรวจตรี บุญโฮม เป็น เจ้าของ ร้าน อาหาร ที่เกิดเหตุ ส่วน นางสาว สุภา และ นางสาว ดรุณี รับประทานอาหาร อยู่ ที่ ร้าน ดังกล่าว จึง ย่อม รู้เห็น เหตุการณ์ ที่ เกิดขึ้น ตลอดอีก ทั้ง ไม่ปรากฏ ว่า พยาน ทั้ง สาม เคย รู้ จัก หรือ มี เรื่อง โกรธเคือง กับจำเลย ที่ 4 มา ก่อน ไม่มี เหตุ ให้ ระแวง สงสัย ว่า จะ เบิกความ ปรักปรำกลั่นแกล้ง จำเลย ที่ 4 คำเบิกความ ของ ร้อยตำรวจตรี บุญโฮม นางสาว สุภา และ นางสาว ดรุณี มี น้ำหนัก น่าเชื่อ ถือ พยานหลักฐาน จำเลย ที่ 4ไม่มี น้ำหนัก หักล้าง ได้ ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ ตาม ที่ พยาน ทั้ง สามเบิกความ ดังนี้ การ ที่ จำเลย ที่ 4 ใช้ ขวด น้ำอัดลม ขนาด ใหญ่ ที่ ทำ จากวัสดุ แข็ง และ มี น้ำอัดลม บรรจุ อยู่ บางส่วน อัน ทำให้ มี น้ำหนัก เพิ่มขึ้นเป็น อาวุธ ตี ทำร้าย ผู้ตาย บริเวณ ศีรษะ ซึ่ง เป็น อวัยวะ สำคัญ หลาย ครั้งแม้ ขณะที่ ผู้ตาย ล้ม ลง หมด สติ ไป แล้ว ก็ ยัง ตี ซ้ำ อีก ถึง 3 ถึง 4 ครั้งจน เป็นเหตุ ให้ ผู้ตาย ได้รับ บาดเจ็บ มี บาดแผล ที่ หน้าผาก และ ศีรษะภาวะ สมอง ไม่ทำ งาน จาก การ กระทบ กระเทือน อย่าง รุนแรง ไม่รู้ สึก ตัวไม่ ตอบสนอง ต่อ ความ เจ็บปวด หัว ใจ ล้มเหลว และ ถึงแก่ความตาย หลังจากเกิดเหตุ เพียง เล็กน้อย พฤติการณ์ ของ จำเลย ที่ 4 ดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลย ที่ 4 ตี ทำร้าย ผู้ตาย โดย เจตนาฆ่า การกระทำ ของ จำเลย ที่ 4จึง เป็น ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนา ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษาลงโทษ จำเลย ที่ 4 ใน ความผิด ฐาน ดังกล่าว นั้น ชอบแล้ว ฎีกา ข้อ นี้ของ จำเลย ที่ 4 ฟังไม่ขึ้น
ส่วน ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย ที่ 4 ที่ ว่า มีเหตุ สมควร ลงโทษ จำเลยที่ 4 สถาน เบา หรือไม่ ข้อเท็จจริง ได้ความ ว่า ก่อน ที่ ผู้ตาย กับกลุ่ม ของ จำเลย ที่ 4 จะ มี เรื่อง ทะเลาะ โต้เถียง ท้าทาย ให้ ออก มาชกต่อย กัน จน พวก คนหนึ่ง ของ จำเลย ที่ 4 ออก มา ชกต่อย ผู้ตาย แล้วเกิด การ ชุลมุน ต่อสู้ จน ผู้ตาย ถูก จำเลย ที่ 4 ใช้ ขวด น้ำอัดลม ขนาดหนึ่ง ลิตร ตี ทำร้าย ถึงแก่ความตาย ผู้ที่ ก่อเหตุ ให้ เกิดเหตุ การณ์ดังกล่าว ก็ คือ ผู้ตาย กรณี จึง มีเหตุ สมควร ลงโทษ จำเลย ที่ 4 ใน สถาน เบาที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 ลงโทษ จำคุก จำเลย ที่ 4 ถึง 16 ปี นั้น หนัก เกิน ไปเห็นสมควร เปลี่ยนแปลง แก้ไข ฎีกา ข้อ นี้ ของ จำเลย ที่ 4 ฟังขึ้น ”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำคุก จำเลย ที่ 4 มี กำหนด 15 ปีคำรับสารภาพ ของ จำเลย ที่ 4 ใน ชั้น จับกุม เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณาอยู่ บ้าง กรณี มีเหตุ บรรเทา โทษ ปราณีลด ให้ ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่ง ใน สาม คง จำคุก จำเลย ที่ 4 ไว้ มี กำหนด 10 ปี นอกจากที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1

Share