แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง เป็นบทบังคับเด็ดขาด. ฉะนั้น จำเลยจึงนำสืบว่าจำเลยได้ใช้เงินให้โจทก์แล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือได้เวนคืนเอกสารหรือแทงเพิกถอนเอกสารนั้นแล้วมิได้.
เพียงเอาโฉนดที่ดินมาให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้ตามสัญญากู้มิใช่หนี้ที่มีประกันตามกฎหมาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินต้นที่จำเลยกู้ไป 7,200 บาทพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยชำระเงินกู้แล้ว โจทก์จึงได้คืนโฉนดที่ 2876, 2875, 2877 ให้จำเลย ส่วนสัญญากู้โจทก์ว่าหาย ฯลฯ ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2เป็นบทบังคับเด็ดขาด จำเลยจึงนำสืบว่าจำเลยได้ใช้เงินให้โจทก์แล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือได้เวนคืนเอกสาร หรือแทงเพิกถอนเอกสารนั้นแล้วมิได้ ที่จำเลยกล่าวในฎีกาว่าหนี้รายนี้เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ประกัน ไม่เหมือนกับหนี้ที่ไม่มีประกัน การชำระหนี้จึงไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 นั้นศาลฎีกาเห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะหนี้รายนี้มิใช่หนี้ที่มีประกันตามกฎหมาย เป็นเพียงเอาโฉนดมาให้โจทก์ยึดถือไว้เท่านั้น พิพากษายืน.