คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มอบพลอยจำนวน 3 หมู่ให้จำเลยไปขายโดยกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ จำเลยจะขายในราคาสูงกว่าก็ได้ ลักษณะเช่นนี้จำเลยย่อมมีสิทธิขายพลอยอย่างเป็นของของตนเอง หาใช่เป็นตัวแทนไปขายในนามของโจทก์ไม่ แม้จะมีข้อตกลงให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยเป็นเงิน 3 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ขายได้ก็ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไป เมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมคืนพลอยหรือใช้เงินให้โจทก์เป็นเพียงผิดข้อตกลงกัน ซึ่งโจทก์จะต้องใช้สิทธิเรียกร้องแก่จำเลยในทางแพ่ง หาเป็นเรื่องมีมูลความผิดในทางอาญาฐานยักยอกไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒, ๓๕๓, ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ และ ๓๕๓ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แต่อัตราโทษทั้งสองบทเท่ากัน จึงให้ลงโทษตามมาตรา ๓๕๒ ประกอบด้วยมาตรา ๙๐ ให้จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยมีว่า จำเลยรับพลอยของโจทก์ไปขายหรือไม่ และการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ปัญหาข้อแรกโจทก์มีตัวโจทก์และนางกำจัด กลีบแก้ว เบิกความว่าโจทก์ได้นำพลอยจำนวน ๓ หมู่ ไปฝากให้จำเลยขาย กำหนดให้ขายในราคาไม่ต่ำกว่าหมู่ละ ๒๐,๐๐๐ บาท หากขายไม่ได้ภายใน ๒ สัปดาห์ จำเลยจะต้องนำพลอยไปคืนให้โจทก์ ความดังกล่าวจำเลยก็ยอมรับต่อร้อยตำรวจโทรันดร เรืองเดชา เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๓๐ ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ไปแจ้งความกล่าวหาจำเลย และร้อยตำรวจโทรันดรได้มาเบิกความเป็นพยาน โจทก์ยืนยันว่าจำเลยรับว่าได้รับมอบพลอยของโจทก์ไปแล้ว ไม่นำพลอยหรือเงินคืนโจทก์จริง จึงฟังได้ว่าโจทก์มอบพลอยจำนวน ๓ หมู่ให้จำเลยไปขายให้จริง ปัญหาข้อต่อไปเห็นว่า โจทก์มอบหมายให้จำเลยขายพลอยให้โดยกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ จำเลยจะขายในราคาสูงกว่าก็ได้ ในลักษณะเช่นนี้จำเลยย่อมมีสิทธิขายพลอยอย่างเป็นของตนเอง หาใช่เป็นตัวแทนไปขายในนามของโจทก์ไม่ แม้จะมีข้อตกลงให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยเป็นเงิน ๓ เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ขายได้ ก็ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไป การที่เมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมคืนพลอยหรือใช้เงินให้โจทก์เป็นเพียงผิดข้อตกลงกัน ซึ่งโจทก์จะต้องใช้สิทธิเรียกร้องแก่จำเลยในทางแพ่ง หาเป็นเรื่องมีมูลความผิดในทางอาญาฐานยักยอกดังที่โจทก์ฟ้องไม่
พิพากษายืน

Share