คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกสมคบกันใช้ปืนยิงนายดำตายโดยเจตนาฆ่า นายอ้นจำเลยที่ ๑ ให้การว่าใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันทรัพย์และชีวิตพอสมควรแก่เหตุ นายโพธิ จำเลยที่ ๒ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกับสำนวนที่นายรินเป็นจำเลยแล้วพิพากษาจำคุกนายอ้นจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๕๙ มีกำหนด ๑๐ ปี ปล่อยนายโพธิ นายริน จำเลย
โจทก์และนายอ้นจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยนายอ้นจำเลยไป นอกจากนี้ยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายอ้นจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์ก็ไม่มีพยานอื่นใดที่จะแสดงให้เห็นว่านายอ้นจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา แม้นายอ้นจำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์สมบัติของจำเลยก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง อย่างไรก็ดีนายอ้นจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย การกระทำของนายอ้นจำเลยเรียกได้ว่าเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์ของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ
พิพากษายืน.

Share