คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์อย่างไรเรียกว่า ละทิ้ง ที่ดินมากมายแต่น้ำเค็มท่วมถึง ผู้ทำจึงทำเป็นหย่อม ๆ ทั่ว ๆ ไปไม่เรียกว่า ละทิ้ง ป.พ.พ.ม.1367 การยึดถือไว้เพื่อตน ไม่จำต้องยึดไว้เพื่อตน ไม่จำต้องยึดไว้เพื่อทำประโยชน์จริงจัง เพียงแต่ยึดถือทำประโยชน์บ้างเล็กน้อยเพื่อแสดงสิทธิก็เกิดสิทธิครอบครองขึ้นได้

ย่อยาว

ได้ความว่าที่ตำบลแพรกตาสาได้มีโจทก์กับพวกจำเลยต่างแบ่งกันขอรังวัด จนถึงกับทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา มีพระบรมราชวินิจฉัยให้แบ่งที่รายนี้ให้ราษฎรทั้งสองฝ่ายที่รายพิพาทนี้ดูตามแผนที่ท้ายพระบรมราชวินิจฉัยแล้ว ปรากฎว่าเป็นที่ซึ่งมีพระบรมราชวินิจฉัยให้แบ่งให้แก่ฝ่ายจีนต่วนสามีนางฮวยกับพวก
ปัญหามีว่า จีนต่วนนางฮวยสละสิทธิที่ตนมีแล้ว และปล่อยให้ ฝ่ายนายขำโจทก์ครอบครองโดยปรปักษ์มาช้านานจริงหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า ในชั้นเดิมต่างแย่งกันทำเพื่อแสดงสิทธิว่าตนได้เข้าครอบครองที่รายนี้ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยและเป็นที่ป่าแสมน้ำเค็มขึ้นถึง ฝ่ายหนึ่งขุดรางยกคันดินอีกฝ่ายก็ทำอย่างเดียวในที่ตรงนั้นบ้าง ฝ่ายหนึ่งตัดต้นแสม ปลูกข้าวก็ทำตามกัน ไม่ใช่ประสงค์ต่อผลประโยชน์ในการทำนา แต่ประสงค์แสดงสิทธิ หากทุกฝ่ายไม่มีกำลังพอจึงทำเป็นหย่อม ๆ ไว้ในที่ต่างแห่งในเขตต์ที่ชิงกรรมสิทธิกัน ในภายหลังก็ทำกันอยู่เช่นนั้นเพราะเจ้าพนักงานยังไม่ได้รังวัดให้ พฤตติการณ์ดังกล่าวมานี้ ยังไม่พอนับว่าฝ่ายนางฮวยจำเลยได้ละทิ้งกรรมสิทธิที่รายนี้ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะได้รับแบ่งที่ดินตามพระบรมราชวินิจฉัย

Share