คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้ฉะเพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตก ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบันทุกรถยนตร์เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมึดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉะบับนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวสาร ๑๐๐ กระสอบในเวลากลางคืนโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษและริบของกลาง จำเลยที่ ๑-๔ ให้การว่า ข้าวรายนี้จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายได้ จำเลยได้ขนย้ายจากสถานที่เก็บเวลากลางวันแต่เดิมทางไปมืดค่ำกลางทาง จำเลยที่ ๕ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยที่ ๑-๔ ตามฟ้องยกฟ้องจำเลยที่ ๕ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง ๔
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศของข้าหลวงประจำจังหวัดชลบุรีมีข้อความสำคัญว่า
๑. ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าว ยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่
ก. การยักย้ายได้รับหนังสืออนุญาต ฯลฯ
ข. ฯลฯ
๒. การยักย้ายดังกล่าว ให้ทำได้ฉะเพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงพระอาทิตย์ตก
คดีนี้ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้มาขนย้ายข้าว และได้ทำการขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บเสร็จเป็นแต่ในเวลากลางวัน ส่วนการที่จำเลยขนย้ายของกลางโดยรถยนตร์บรรทุก ออกจากที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี ไปยังตำบลสัตตหีบ เป็นการกระทำอีกระยะหนึ่งต่างหาก เป็นการคนละระยะคนละตอนกับการยักย้ายจากสถานที่เก็บ การกระทำของจำเลยในระยะหลัง คือการที่จำเลยขนย้ายข้าวจากอำเภอเมืองชลบุรีไปยังสัตตหีบ ซึ่งค่ำมืดลงในเวลากลางคืนระหว่างทาง จะฟังว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศของข้าหลวงประจำจังหวัดชลบุรีตามฟ้องหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share