คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลยถูกไหล่จนจำเลยขะมำลง มีผู้มาห้ามแต่ผู้ตายกลับตีจำเลยซ้ำ จำเลยยกมือขึ้นจับไม้แล้วยื้อแย่งกัน มือข้างหนึ่งของจำเลยถือมีด จำเลยจึงฟันผู้ตายด้วยมีดนั้นแล้วฟันซ้ำรวม 6 แผล การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา แต่จำเลยและผู้ตายยื้อแย่งไม้กันอยู่ เป็นการต่อสู้ชุลมุน ผู้ตายอาจใช้อาวุธทำร้ายจำเลยอีกก็ได้ ฉะนั้นการที่จำเลยกระทำแก่ผู้ตาย จึงเป็นการป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ.

ย่อยาว

คดีมาสู่ศาลฎีกาฉะเพาะนายแถวจำเลย ข้อหาว่านายแถวกับพวกสมคบกันฆ่านายบุญนาคตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ, นายแถวจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นจำคุก ๓ ปี ๖ เดือนตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๑,๕๕ ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๔๙ แต่ลดโทษฐานกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา ๕๐,๕๓ จำคุก ๒ ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายบุญนาคกับพวกอีก ๕ คนเดินทางผ่านบ้านนายแถวจำเลย นายบุญนาคเมาสุราร้องถามว่า อ้ายแถวอยู่ไหน นายแถวและนายบุญนาคเป็นคนไม่ชอบกันมาแต่เดิม นายบุญมีผู้ที่ไปด้วยกับนายบุญนาค ได้พูดกลบเกลื่อน เกรงจะมีเรื่อง ระหว่างพูดนั้นนายบุญนาคได้เอาไม้ตีนายแถวถูกไหล่จนนายแถวขะมำลง นายบุญมีร้องห้าม นายบุญนาคหาฟังไม่ กลับตีซ้ำ นายแถวยกมือขึ้นรับจับไม้ของนายบุญนาค ยื้อแย่งกัน มืออีกข้างหนึ่งของนายแถวถือมีด นายแถวจึงฟันนายบุญนาคด้วยมีดนั้น นายแถวฟันนายบุญนาคซ้ำหลายแผล ตามรายงานชัณสูตรพลิกศพมีแผล ๖ แห่ง การกระทำของนายแถวจึงเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา นายแถวกับนายบุญนาคยื้อแย่งไม้กันอยู่ เป็นการต่อสู้ชุลมุน นายบุญนาคอาจใช้อาวุธทำร้ายนายแถวอีกก็ได้ฉะนั้นการที่นายแถวทำแก่นายบุญนาค จึงเป็นการป้องกันตัวแต่เกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษายืน.

Share