คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่าให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์มเมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอหรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชันสูตรยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อนแล้วจึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลังทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวงเช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมายฉะนั้นแม้กำนันจะเรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าป่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดีกำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 137

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบังคับเรียกค่ารังวัดชันสูตรที่ดินจากราษฎร ซึ่งต้องการจับจองที่ดินในตำบลห้วยน้ำหอมรวม 56 รายเป็นเงิน 2,062 บาท เป็นการมิชอบ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136, 137, 138 ฯลฯ

จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยไม่มีอำนาจและหน้าที่ จึงไม่ผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 137 จำคุก 1 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยเป็นกำนันตำบลห้วยน้ำหอม มีราษฎร 56 ราย ต้องการจับจองที่ดินในตำบลนั้นจำเลยได้จัดการรังวัดแล้ว ทำหนังสือรับรองให้ราษฎรแต่ละรายมีใจความว่า ที่ดินเหล่านั้นไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้จับจอง โดยราษฎรเสียค่าป่วยการให้แก่จำเลย คิดตามเนื้อที่ไร่ละ 1 บาท รวมเงินทั้งสิ้น 2,062 บาท ราษฎรนำหนังสือรับรองของจำเลยไปขออนุญาตจับจองต่ออำเภอ อำเภอไม่อนุญาตเพราะดำริจะทำการหวงห้ามอยู่แล้ว โจทก์จึงฟ้องคดีนี้

ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความในพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 ได้กำหนดแบบเรื่องราวการขอจับจอง และเป็นคำรับรองไว้ และบังคับไว้ว่า เมื่อกรมการอำเภอได้รับเรื่องราวขอจับจองที่ดินแล้ว จึงให้นายอำเภอหรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชันสูตรยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอ แต่คดีเรื่องนี้ราษฎรตรงไปขอให้จำเลยรังวัดออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้วราษฎรจึงมาขอจับจองภายหลังทั้งหนังสือรับรองของจำเลยก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์ม จึงต้องถือว่าจำเลยทำขึ้นโดยส่วนตัว ไม่ใช่ตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 137 ไม่ได้

จึงพิพากษายืน

Share