แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อเจ้าคณะนครหลวงกรุงเทพธนบุรีได้มีคำสั่งให้ถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาส โดยในคำสั่งระบุชัดว่าให้มีผลบังคับตั้งแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไปนั้น ย่อมมีผลบังคับทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์จะได้ร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งหรือไม่ และถือได้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีเจ้าอาวาส ฉะนั้น การที่จำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส หลังจากที่ได้มีคำสั่งถอดถอนโจทก์แล้วนั้น จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เจ้าคณะจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี ได้มีคำสั่งลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ให้ถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมาราม โจทก์ยื่นคำร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งอยู่ ในวันนั้นเองจำเลยซึ่งมีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส โดยเจตนาทุจริตได้ออกคำสั่งแต่งตั้งพระศรีสมโพธิเป็นผู้รักษาการแทนโจทก์ ทั้งที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมารามยังไม่ว่าง เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เหตุเกิดที่ตำบลบางนา – บางจาก อำเภอพระโขนง และที่ตำบลวัดสามพระยา อำเภอพระนคร กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำฟ้องฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๘ เจ้าคณะนครหลวงกรุงเทพธนบุรี มีคำสั่งถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมาราม เพราะกระทำความผิด ในวันเดียวกันนั้น จำเลยซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลบางนา – บางจาก ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระศรีสมโพธิเป็นผู้รักษาการแทน โจทก์จึงกล่าวหาจำเลยเป็นคดีนี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๕ (พ.ศ.๒๕๐๖) ข้อ ๔๕ บัญญัติให้พระสงฆ์ซึ่งถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษฐานละเมิดจริยา ต้องปฏิบัติตามทันที ฉะนั้น คำสั่งถอดถอนโจทก์จึงมีผลบังคับทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์ได้ร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งนั้นหรือไม่ และถือได้ว่าเป็นกรณีไม่มีเจ้าอาวาสตามความในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๔ การที่จำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว
พิพากษายืน