คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าประมาณปี พ.ศ.2517 จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์จำนวน 2 เครื่อง รวมราคาทั้งสิ้น 690,000 บาทจำเลยชำระค่าเครื่องปรับอากาศให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 655,000 บาท คงเหลือที่จะต้องชำระจำนวนสุดท้าย 34,500 บาท โดยกำหนดชำระในวันที่ 1 มกราคม 2518 จำเลยประพฤติผิดสัญญาซื้อขายไม่ยอมชำระเงิน 34,500 บาทให้แก่โจทก์ เช่นนี้เป็นคำฟ้องที่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์แล้วแม้ในคำฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่องแต่ตามสัญญาซื้อขายที่โจทก์อ้างและส่งศาลในภายหลัง ปรากฏว่าจำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง ไม่ตรงกับที่ปรากฏในคำฟ้องก็หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล ประมาณปี พ.ศ. 2517 จำเลยได้สั่งซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์จำนวน 2 เครื่อง รวมราคา 690,000 บาท จำเลยได้ชำระเงินค่าเครื่องปรับอากาศให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 655,000 บาท คงเหลือที่ต้องชำระในวันที่ 1 มกราคม 2518 อีก 34,500 บาท จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมชำระเงินจำนวน 34,500 บาทให้โจทก์ โจทก์ทวงถามหลายครั้งก็ไม่ชำระจึงขอคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2518 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 5,606 บาท ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 40,106 บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี จากยอดเงิน 34,500 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์รวม 5 เครื่องและชำระราคาครบถ้วนแล้วทุกเครื่อง ที่โจทก์กล่าวว่าจำเลยยังค้างชำระเงินอีก 34,500 บาท ไม่ทราบว่าเป็นเงินที่ค้างชำระสำหรับราคาของเครื่องใดโจทก์ไม่แสดงหลักฐานหนังสือสัญญาซื้อขายให้ปรากฏโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้ถูกต้องและเสียเปรียบ ฟ้องของโจทก์ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศจากโจทก์เมื่อปี พ.ศ. 2516 ไม่ใช่ปี พ.ศ. 2517 เกินกำหนด2 ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความแถลงร่วมกันขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นเดียวว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ โดยคู่ความอ้างสัญญาซื้อขายเครื่องปรับอากาศหมาย จ.ล.1 เป็นพยานร่วม

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แต่โจทก์มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยเพียงร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 34,500 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 1 มกราคม 2518จนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะวินิจฉัยว่าฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาจากคำฟ้องอย่างเดียว โจทก์บรรยายฟ้องว่าประมาณปี พ.ศ. 2517 จำเลยซื้อเคื่องปรับอากาศไปจากโจทก์จำนวน 2 เครื่อง รวมราคาทั้งสิ้น 690,000 บาทจำเลยชำระค่าเครื่องปรับอากาศให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 655,000 บาท คงเหลือที่จะต้องชำระจำนวนสุดท้าย 34,500 บาท โดยกำหนดชำระในวันที่ 1 มกราคม2518 จำเลยประพฤติผิดสัญญาซื้อขายไม่ยอมชำระเงิน 34,500 บาทให้แก่โจทก์คำฟ้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว แม้ในคำฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศ 2เครื่อง แต่ตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.ล.1 ปรากฏว่าจำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ตรงกับที่ปรากฏในคำฟ้อง เรื่องอาจเป็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องผิดพลาด หาใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่

พิพากษายืน

Share