แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายนั่งยองๆ ซื้อของ เอาถุงเงินวางไว้ในตัก พอซื้อเสร็จก็ลุกขึ้นไปไปได้ประมาณ 4 วา นึกถึงถุงเงินได้ เข้าใจว่าตกลงที่นั่งซื้อของจึงกลับมาถามและหาตามบริเวณนั้น แต่ไม่พบ ขณะผู้เสียหายทำถุงเงินตกนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยอยู่ตรงไหน เห็นผู้เสียหายทำถุงเงินตกหรือไม่ ขณะนั้นประชาชนมาจ่ายตลาดมาก จำเลยเห็นถุงนั้นตกอยู่ไม่ทราบว่าเป็นของใครจึงเก็บเอาไปเป็นของตน โดยเข้าใจว่าเป็นของที่เจ้าของทำตกหายจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางหน่อแก้ว ได้ทำถุงผ้าพร้อมด้วยธนบัตรรวม 140 บาท ซึ่งอยู่ในถุงผ้านั้นตกหายในตลาด จำเลยเก็บถุงผ้าและธนบัตรดังกล่าวได้ และจำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาถุงผ้าและธนบัตรของนางหน่อแก้วไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรค 2 ให้จำคุก 2 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้เสียหายทำถุงเงินตกแล้วเดินไปได้เพียง 4 วา นึกได้จึงกลับมาหาแต่ไม่พบ เพราะจำเลยเก็บเอาไปเสียแล้วการที่จำเลยหยิบเอาไปในเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่ผู้เสียหายลืมเช่นนี้ จำเลยน่าจะรู้ว่าเป็นของผู้เสียหาย จำเลยเอาไปเสียจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ แต่โจทก์ฟ้องจำเลยฐานยักยอก จึงลงโทษจำเลยดังโจทก์ฟ้องไม่ได้พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหายซื้อมะเขือในตลาดโดยนั่งยอง ๆ ซื้อ เอาถุงเงินวางไว้ในตัก ซื้อเสร็จลุกขึ้นไป ลืมนึกถึงถุงเงินลุกขึ้นได้ก็ไปห่างร้านมะเขือประมาณ 4 วา นึกถึงถุงเงินขึ้นได้คงจะเข้าใจว่าตกลงที่ตรงนั่งซื้อมะเขือ จึงกลับมาถามคนขายและหาตามบริเวณนั้น แต่ไม่พบ ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าขณะผู้เสียหายทำถุงเงินตกนั้นจำเลยอยู่ตรงไหนเห็นผู้เสียหายทำถุงเงินตกหรือไม่ขณะนั้นมีคนมาจ่ายตลาดกันมาก จำเลยเห็นถุงนั้นตกอยู่ไม่ทราบว่าเป็นของใคร จึงเก็บเอาถุงนั้นไปเป็นของตนเสียโดยเข้าใจว่าเป็นของที่เจ้าของทำตกหาย จึงมีความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น