แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรคสอง เป็นบทบังคับเรื่องกำหนดเวลาสำหรับร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ไม่ใช่เรื่องอายุความ จึงไม่อาจนำเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับได้ การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องเพราะคำร้องบกพร่อง ผู้ร้องก็ชอบที่จะแก้ไขข้อบกพร่องและยื่นคำร้องเสียใหม่ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว หรือหากผู้ร้องเห็นว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องเป็นการไม่ชอบ ผู้ร้องก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้องดังกล่าวตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคท้าย แต่เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินการดังกล่าวมาจนล่วงเลยระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ผู้ร้องได้รับสำเนาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องย่อมขาดสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสอง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาข้อพิพาทระหว่างผู้ร้องกับบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย จำกัด อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2551 ให้ยกคำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้อง โดยแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 ต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนคำชี้ขาด เป็นคดีหมายเลขดำที่ 8066/2551 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า “ตามคำร้องมิได้ระบุถึงเหตุผลที่ศาลนี้มีอำนาจในการเพิกถอนคำชี้ขาดและมิได้ระบุวันที่ผู้ร้องได้รับสำเนาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ตามมาตรา 40 ของพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 อันจะทำให้ศาลพิจารณาในเรื่องอำนาจฟ้องของผู้ร้องได้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้อง คืนค่าขึ้นศาล” ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว แต่ต่อมาวันที่ 5 กันยายน 2551 ผู้ร้องยื่นคำร้องเป็นคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า “ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสอง บัญญัติว่า ในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องต้องยื่นต่อศาลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำชี้ขาด คดีนี้ผู้ร้องได้รับสำเนาคำชี้ขาดในวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 ผู้ร้องมายื่นคำร้องในวันที่ 5 กันยายน 2551 จึงยื่นเกินกำหนด ผู้ร้องไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 44 (ที่ถูก มาตรา 45) บัญญัติให้อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา จึงให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการส่งศาลฎีกาต่อ่ไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการชอบหรือไม่ ที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า ผู้ร้องได้รับสำเนาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม2551 และยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 เป็นคดีหมายเลขดำที่ 8066/2551 จึงเป็นการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายในระยะเวลา 90 วัน ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 แล้ว แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องอันเนื่องจากผู้ร้องมิได้ระบุเหตุผลและวันที่ผู้ร้องรับสำเนาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว โดยการยื่นคำร้องมีผลเช่นเดียวกับการฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 (5) อายุความจึงสะดุดหยุดลง ซึ่งตามมาตรา 193/18 ให้นำมาตรา 193/17 มาใช้บังคับแก่กรณีที่อายุความสะดุดหยุดลงเพราะเหตุตามมาตรา 193/14 (3) (4) และ (5) โดยอนุโลม มีผลทำให้เมื่อผู้ร้องแก้ไขคำร้องโดยบริบูรณ์และยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นอีกครั้งในวันที่ 5 กันยายน 2551 จึงอยู่ภายในกำหนดอายุความดังกล่าวแล้ว แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องจึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสอง บัญญัติว่า คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดได้โดยยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำชี้ขาด…บทบัญญัติดังกล่าวนี้เป็นบทบังคับเรื่องกำหนดเวลาสำหรับร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ไม่ใช่เรื่องอายุความ จึงไม่อาจนำเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับได้การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องเพราะคำร้องบกพร่องผู้ร้องก็ชอบที่จะแก้ไขข้อบกพร่องและยื่นคำร้องเสียใหม่ภายในกำหนดเวลาดังกล่าวหรือหากผู้ร้องเห็นว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องเป็นการไม่ชอบ ผู้ร้องก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้องดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคท้าย แต่เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินการดังกล่าวมาจนล่วงเลยระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ผู้ร้องได้รับสำเนาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องย่อมขาดสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ