แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใช้มีดยาวคืบเศษแทงผู้ตายหลายทีจนมีบาดแผลฉกรรจ์ 2 แผลเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ต้องถือว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยแทงผู้ตาย โดยบันดาลโทสะขณะที่เห็นพี่สาวจำเลยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุร้ายแรง และไม่เป็นธรรม จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนผ่อนโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 55
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2496 จำเลยได้ใช้มีดแทงนายเพ็งถึงแก่ความตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การว่าได้กระทำไปโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายเนื่องจากผู้ตายตีนางสงบพี่สาวจำเลย จำเลยบันดาลโทสะจึงได้แทงผู้ตาย พิพากษาว่าจำเลยผิดกฎหมายอาญา มาตรา 249 แต่ลดโทษฐานบันดาลโทสะตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 7 ปี 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จำเลยไม่ควรได้รับการลดโทษฐานบันดาลโทสะตามมาตรา 55 เพราะผู้ตายวิวาทกับพี่สาวจำเลย จำเลยไม่ได้ถูกกดขี่ข่มเหงโดยไม่เป็นธรรมอย่างไรพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 251 แต่ปรานีลดโทษตามมาตรา 59 ลง 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 4 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีนางสงบพี่สาวจำเลย จำเลยจึงตรงเข้าใช้มีดแทงผู้ตาย 5 แผล เห็นว่าการที่จำเลยใช้มีดยาวคืบเศษแทงผู้ตายหลายที จนมีบาดแผลฉกรรจ์ 2 แผลเป็นเหตุให้ถึงตายต้องถือว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่จำเลยกระทำผิดโดยบันดาลโทสะในขณะที่เห็นพี่สาวของตนถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงโดยเหตุร้ายแรง และไม่เป็นธรรม จึงควรได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษตามมาตรา 55 และยังได้ลุแก่โทษ และให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจึงพิพากษาว่า จำเลยผิดกฎหมายอาญา มาตรา 249 แต่ลดโทษให้ตามมาตรา 55, 59 คงจำคุกไว้ 5 ปี