คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายประกันผิดสัญญาไม่สามารถส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามนัด ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาและพิพากษาลงโทษจำเลย ต่อมาอีก 1 ปีเศษ นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ แล้วยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุจะลดค่าปรับนายประกัน นายประกันมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาขอให้ลดค่าปรับได้อีกภายในกำหนดเวลาสำหรับอุทธรณ์ฎีกา นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่ลดค่าปรับ (แม้จะเป็นเวลาถึง 1 ปีเศษแล้วนับแต่ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาประกัน)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์ ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นปล่อยจำเลยชั่วคราวโดยให้มีประกันตัว ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 17 ธันวาคม2511 แต่นางสาวอรทัย ศุขโต นายประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยตามนัดได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2511 ปรับนางสาวอรทัย ศุขโต นายประกันฐานผิดสัญญา เป็นเงิน 80,000 บาท เต็มตามสัญญา และให้ชำระค่าปรับภายใน 15 วัน ในวันเดียวกันนั้นได้ออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษาด้วย แต่ก็ไม่ได้ตัวจำเลยภายใน 1 เดือนนับแต่วันออกหมายจับ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยให้จำคุกจำเลย 4 ปี

ต่อมาวันที่ 29 มกราคม 2513 นางสาวอรทัยนายประกันยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าได้แจ้งให้ตำรวจจับจำเลยได้แล้ว ขอส่งตัวจำเลยต่อศาลศาลสั่งให้รับตัวไว้ ครั้นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2513 นางสาวอรทัยนายประกันยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า นับแต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดนายประกันมิได้นิ่งนอนใจ ได้ออกติดตามหาตัวจำเลยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และยังได้จ้างให้คนอื่นตามด้วย สิ้นเงินค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ต่อมาผู้ที่นายประกันจ้างให้ติดตามนั้นแจ้งว่าพบตัวจำเลยถูกจับอยู่ที่สถานีตำรวจ นายประกันจึงได้ขอให้ส่งตัวจำเลยไว้ในคดีนี้ จึงขอให้ศาลพิจารณาลดค่าปรับที่ได้สั่งปรับไปนั้นด้วย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยถูกจับในคดีอื่น ไม่ใช่นายประกันนำตำรวจจับได้เองไม่มีเหตุจะลดค่าปรับ

นางสาวอรทัยนายประกันอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรลดค่าปรับให้ 1 ใน 4 คงปรับ 60,000 บาท

นางสาวอรทัยนายประกันฎีกาขอลดค่าปรับลงอีก

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อหาของจำเลยเป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยมีเหตุฉกรรจ์เท่านั้นทรัพย์ที่จำเลยลักไปเป็นเงิน 729.25 บาท เมื่อศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกในวันที่ 13 ธันวาคม 2511 จำเลยก็มาศาล หากแต่ไม่ได้ฟังเพราะศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปซึ่งถ้าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาเสียในนัดแรกแล้ว คงไม่มีเหตุพิพาทเกิดขึ้น และนับแต่ออกหมายจับเป็นเวลา 1 ปีเศษแล้วก็ยังจับจำเลยไม่ได้ การได้ตัวจำเลยมาลงโทษตามคำพิพากษาก็เพราะความขวนขวายเอาใจใส่ติดตามของนายประกัน ทั้งน่าเชื่อว่านายประกันได้สิ้นเงินค่าใช้จ่ายในการติดตามมิใช่น้อย รูปคดีมีเหตุสมควรลดหย่อนค่าปรับลงอีกได้

พิพากษาแก้เป็นปรับ 40,000 บาท

Share