คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ร้องสอดจะมีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้ก็ตาม แต่ได้ความตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องแถวพิพาท และจำเลยได้ส่งมอบห้องแถวพิพาทให้แก่โจทก์ อีกทั้งจำเลยไม่ได้อยู่ในห้องแถวพิพาทอีกต่อไปแล้ว ซึ่งผู้ร้องสอดมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าไม่เป็นความจริงข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามฎีกาของโจทก์ดังกล่าว ดังนี้ หากศาลฎีกาจะมีคำสั่งย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดี แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่ทั้งหมด ก็จะทำให้คดีดังกล่าวข้างต้นต้องล่าช้าไม่เป็นประโยชน์แก่คู่กรณี ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ผู้ร้องสอดไปฟ้องเป็นคดีใหม่ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสามฟ้องขับไล่จำเลยทั้งห้าออกจากที่ดินและตึกแถวที่โจทก์อ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยทั้งห้าให้การในทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งห้าเช่าที่ดินมาจากผู้ร้องสอด ขณะนี้ยังไม่ครบกำหนดเวลาตามสัญญาเช่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสอดได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวดังกล่าวโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว การที่โจทก์ทั้งสามฟ้องขับไล่จำเลยทั้งห้าดังกล่าว คำพิพากษาของศาลย่อมกระทบกระเทือนและโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องสอดในทรัพย์สินดังกล่าว ผู้ร้องสอดจึงยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความในคดีนี้
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องสอดไว้พิจารณาต่อไป
โจทก์ทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ร้องสอดจะมีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ได้ก็ตาม แต่ได้ความตามฟ้องฎีกาของโจทก์ทั้งสามว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งหมดและบริวารออกจากห้องแถวพิพาท และจำเลยทั้งหมดก็ส่งมอบห้องแถวพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสามหมดสิ้น จำเลยทั้งหมดไม่ได้อยู่ในห้องแถวพิพาทอีกต่อไปแล้ว ซึ่งผู้ร้องสอดมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าไม่เป็นความจริงข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำฟ้องฎีกาของโจทก์ทั้งสามว่าศาลชั้นต้นได้พิพากษาขับไล่จำเลยทั้งหมดและบริวารออกจากห้องแถวพิพาท และจำเลยทั้งหมดได้ออกจากห้องแถวพิพาทแล้ว ดังนั้นหากศาลฎีกาจะมีคำสั่งย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่ทั้งหมดก็จะทำให้คดีดังกล่าวข้างต้นต้องล่าช้าไม่เป็นประโยชน์แก่คู่กรณีศาลฎีกาเห็นสมควรให้ผู้ร้องสอดไปฟ้องเป็นคดีใหม่ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ร้องสอดที่จะไปฟ้องคดีใหม่

Share