คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 กับพวกปล้นทรัพย์โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ใช้อาวุธปืนขู่เข็ญบังคับผู้เสียหายจำเลยที่ 1 และที่3 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดนี้ ดังนี้ จำเลยที่ 2 เท่านั้น ที่ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง อีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340ตรี ส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามมาตรา340 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 86 หาใช่มาตรา 340ตรีประกอบด้วยมาตรา 86 ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องอีก 3 คนได้ร่วมกันมีปืนพกสั้น เป็นอาวุธทำการปล้นเอาธนบัตรของนายเหล็ก แสนศรี ไป ในการปล้นนี้จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังตบตีทำร้ายร่างกายนายเหล็ก แสนศรี และใช้อาวุธปืนขู่เข็ญจะยิง ทั้งนี้เพื่อให้นายเหล็ก แสนศรี ยื่นให้ซึ่งทรัพย์เพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ทวิ, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักและเหตุผลลงโทษจำเลยได้พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกันทำการปล้นทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 3 เป็นผู้สนับสนุนให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 2 กับพวกทำการปล้นทรัพย์ พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 ให้จำคุก 18 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 34 ตรีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ให้จำคุกคนละ 12 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 12 ปี จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 8 ปี

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสามได้กระทำผิดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ประกอบด้วยมาตรา 86 นั้น ยังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยที่ 2 กับคนร้ายอีกคนหนึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขู่เข็ญบังคับผู้เสียหาย ดังนั้น เฉพาะจำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340 ตรี ส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นแต่เพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังที่ศาลอุทธรณ์ฟังมา จึงจะถือว่าต้องระวางโทษตามมาตรา 340 ตรี ประกอบด้วยมาตรา 86 หาได้ไม่

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ตามที่แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 14 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 วางโทษจำคุกคนละ 8 ปี คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามมาตรา 78 คนละ1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 5 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share