คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษายกฟ้องคดีก่อนโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยกเสียตามมาตรา 161 ดังนี้ พึงเห็นได้ว่าเลากระทำผิดเป็นข้อสัญญาที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง และเวลากระทำผิดเช่นว่านี้ ก็เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องความผิดที่จำเลยกระทำนั่นเอง จึงได้ชื่อว่าศาลได้ยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39(4) จะฟ้องจำเลยใหม่ ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙,๖๐,๒๕๖
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำจึงไม่รับฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่ฟ้องซ้ำ จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ได้ความว่าโจทก์เคยยื่นฟ้องจำเลยในกรณีความผิดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ศาลได้ยกฟ้องคดีนั้น โดยกล่าวว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘(๕) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยกเสียตามมาตรา ๑๖๑ ฉะนั้นโจทก์จะยื่นฟ้องใหม่ไม่ได้ เป็นการฟ้องซ้ำ อนึ่งในคดีก่อนที่ศาลยกฟ้องโดยฟ้องของโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดนั้น พึงเห็นได้ว่า เวลากระทำผิดเป็นข้อสำคัญที่โจทก์จะต้องกล่าวมาในฟ้อง และเวลากระทำผิดเช่นว่านี้ ก็เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องความผิดที่จำเลยกระทำนั้นเอง จึงได้ชื่อว่าศาลได้ยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๓๙(๔)
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share