คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจะเดินทางกลับประเทศไทย ผู้เสียหายได้ฝากทรัพย์สินมากับจำเลยเพื่อฝากให้ภริยาผู้เสียหายในประเทศไทย ต่อมาผู้เสียหายเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ไปทวงถามที่บ้านจำเลยที่อำเภอกุมภวาปีจังหวัดอุดรธานี จำเลยบอกว่าจะคืนให้ภายหลัง แล้วจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝาก มูลความผิดฐานยักยอกทรัพย์เกิดเมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากทรัพย์ เหตุจึงเกิดที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปีมีอำนาจสอบสวนได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352คืนของกลางแก่ผู้เสียหาย และให้จำเลยคืนทรัพย์หรือชดใช้ราคาจำนวน 50,700 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 6 เดือน ให้จำเลยคืนของกลางแก่ผู้เสียหายกับให้จำเลยคืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 30,000 บาท แก่ผู้เสียหาย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ตามทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า ผู้เสียหายกับจำเลยรู้จักกันระหว่างที่ไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ต่อมาปี 2529 จำเลยเดินทางกลับประเทศไทยก่อนผู้เสียหายว่า ได้ฝากทรัพย์สินมากับจำเลยเพื่อฝากให้ภริยาของผู้เสียหายในประเทศไทย เมื่อผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศไทยจึงทราบว่าจำเลยมิได้นำทรัพย์สินที่ฝากมาให้กับภริยาผู้เสียหาย ผู้เสียหายไปทวงถามจำเลยที่บ้านจำเลยที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี จำเลยว่าเอาเครื่องขยายเสียงไปซ่อม ส่วนทรัพย์สินอื่นจะคืนพร้อมเครื่องขยายเสียง ต่อมาจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝาก ผู้เสียหายจึงร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของจำเลย มูลแห่งความผิดทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ตามข้อนำสืบของโจทก์เกิดเมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากทรัพย์อันแสดงถึงเจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์เป็นของตน เหตุจึงเกิดที่อำเภอกุมภาวาปีจังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย มิใช่เกิดที่ประเทศซาอุดีอาระเบียพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร อำเภอกุมภวาปี มีอำนาจสอบสวนได้เมื่อคดีนี้มีการสอบสวนโดยชอบ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาไม่เห็นฟ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฎีกาว่าโจทก์ฟังขึ้น และข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้เสียหายได้ฝากทรัพย์ของกลางมากับจำเลยเมื่อจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์เป็นของตน จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคแรก ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ค่าปรับหากไม่ชำระให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากนี้ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share