แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยจะเดินทางจากประเทศซาอุดีอาระเบียกลับประเทศไทยผู้เสียหายได้ฝากทรัพย์สินมากับจำเลยเพื่อฝากให้ภริยาผู้เสียหายในประเทศไทย ต่อมาผู้เสียหายเดินทางกลับมาประเทศไทยทราบว่าจำเลยมิได้นำทรัพย์สินที่ฝากมาให้กับภริยาผู้เสียหายจึงได้ไปทวงถามที่บ้านจำเลยที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี จำเลยบอกว่าจะคืนให้ภายหลังแล้วจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝาก มูลความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เกิดเมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากทรัพย์เหตุจึงเกิดที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทยมิใช่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปีจึงมีอำนาจสอบสวน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ครอบครองเครื่องขยายเสียง 1 เครื่องหูฟัง 1 อัน กล้องส่องทางไกล 1 อัน นาฬิกา 2 เรือน เครื่องกันฝุ่น(หน้ากากป้องกันไอพิษ) 1 อัน กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ เสื้อผ้าสตรี3 ชิ้น รวมเป็นเงิน 54,900 บาท ของนายบาน สอนสมนึกหรือสอนสำนึกผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายฝากจำเลยไปมอบให้ภริยาของผู้เสียหายจำเลยได้เบียดบังเอาทรัพย์ทั้งหมดของผู้เสียหายเป็นของตนโดยทุจริตเหตุเกิดที่ตำบลตูมใต้ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานีขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 คืนของกลางแก่ผู้เสียหายและให้จำเลยคืนทรัพย์ คือเครื่องขยายเสียง หูฟัง กล้องส่องทางไกลนาฬิกา 2 เรือน เสื้อผ้าสตรี หรือชดใช้ราคาจำนวน 50,700 บาทแก่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 6 เดือน ให้คืนกระเป๋าเดินทาง1 ใบ เครื่องกันฝุ่น 1 อัน ของกลางแก่ผู้เสียหายกับให้จำเลยคืนเครื่องแอมปิไฟเออร์ (เครื่องขยายเสียง) หรือชดใช้ราคาทรัพย์ดังกล่าวเป็นเงิน 30,000 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ ตามทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า ผู้เสียหายกับจำเลยรู้จักกันระหว่างที่ไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ต่อมาปี 2529จำเลยเดินทางกลับประเทศไทยก่อน ผู้เสียหายได้ฝากทรัพย์สินมากับจำเลยเพื่อฝากให้ภริยาของผู้เสียหายในประเทศไทย เมื่อผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศไทยจึงทราบว่าจำเลยมิได้นำทรัพย์สินที่ฝากมาให้กับภริยาผู้เสียหาย ผู้เสียหายไปทวงถามจำเลยที่บ้านจำเลยที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี จำเลยว่าเอาเครื่องขยายเสียงไปซ่อม ส่วนทรัพย์สินอื่นจะคืนพร้อมเครื่องขยายเสียง ต่อมาจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝาก ผู้เสียหายจึงร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของจำเลย มูลแห่งความผิดทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ตามข้อนำสืบของโจทก์เกิดเมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากทรัพย์ อันแสดงถึงเจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์เป็นของตน เหตุจึงเกิดที่อำเภอกุมภวาปีจังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย มิใช่เกิดที่ประเทศซาอุดีอาระเบียพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกุมภวาปี มีอำนาจสอบสวนได้เมื่อคดีนี้มีการสอบสวนโดยชอบ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง”
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคแรก ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี นอกจากนี้ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น