แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แล้วขึ้นซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ที่มีผู้ขับรออยู่ขับหลบหนีไป แสดงให้เห็นว่า มีการวางแผนและเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงมี ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพก ๑ กระบอก ไม่มีหมายเลขทะเบียน ของเจ้าพนักงาน และกระสุนปืน ๔ นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนยิงนายบุญเพ้ง หรือห้วย สัจจสวัสดิ์ โดยเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุให้ นายบุญเพ้งถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๓๗๑, ๙๑ และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔) ให้ประหารชีวิต และฐานมีกับพาอาวุธปืน จำคุก ๖ เดือน เมื่อรวมทุกกระทงความผิดแล้ว ให้ประหารชีวิตจำเลย ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย โดยเจตนาฆ่า แล้วขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีผู้ขับรออยู่ขับหลบ หนีไป แสดงให้เห็นว่า มีการวางแผนและเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔)
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตามพระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์