คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติ ญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 มาตรา 11 ที่บัญญัติให้พนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์พ้นจากตำแหน่งนั้นมีความหมายว่าเมื่อพนักงานรัฐวิสาหกิจผู้ใดมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์อันเป็นการขาดคุณสมบัติแล้วก็ให้รัฐวิสาหกิจนั้นดำเนินการให้ผู้นั้นออกจากงาน มิได้หมายความว่าพนักงานผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่งในทันที เมื่อจำเลยดำเนินการให้โจทก์ทั้งยี่สิบหกคนออกจากงานเพื่อให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 46 หาใช่เป็นการออกจากงานโดยผลของกฎหมายไม่

ย่อยาว

โจทก์ทั้งยี่สิบหกสำนวนซึ่งศาลสั่งรวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันฟ้องว่า โจทก์ทั้งยี่สิบหกเป็นลูกจ้างจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งยี่สิบหกเพราะเหตุเกษียณอายุ โดยโจทก์ทั้งยี่สิบหกมีอายุการทำงานเกินกว่า 3 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ทั้งยี่สิบหกพร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งยี่สิบหกสำนวนให้การว่า จำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจ โจทก์ทั้งยี่สิบหกออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุ เป็นการพ้นจากตำแหน่งโดยผลของกฎหมายไม่ใช่การเลิกจ้าง โจทก์ทั้งยี่สิบหกไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยขอให้ยกฟ้อง วันนัดพิจารณาคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงตามฟ้องศาลแรงงานกลางงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 71,880 บาท ให้แก่โจทก์ที่เหลือเป็นเงินตามฟ้องและให้จ่ายดอกเบี้ยแก่โจทก์ที่ 13 ถึงโจทก์ที่ 26 จำเลยทั้งยี่สิบหกสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจและโจทก์ทั้งยี่สิบหกเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518มาตรา 11 ที่บัญญัติให้พนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์พ้นจากตำแหน่งนั้น มีความหมายว่าเมื่อพนักงานรัฐวิสาหกิจผู้ใดมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ อันเป็นการขาดคุณสมบัติแล้วก็ให้รัฐวิสาหกิจนั้นดำเนินการให้ผู้นั้นออกจากงาน มิได้หมายความว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่งในทันที ดังนั้นเมื่อจำเลยผู้เป็นนายจ้างดำเนินการให้โจทก์ทั้งยี่สิบหกออกจากงานเพื่อให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46กรณีหาใช่โจทก์ทั้งยี่สิบหกออกจากงานโดยผลของกฎหมายไม่ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งยี่สิบหกและจ่ายดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 13 ถึงโจทก์ที่ 26 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งยี่สิบหกสำนวนฟังไม่ขึ้นแต่ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ที่ 1จำนวน 71,880 บาท นั้น ไม่ถูกต้องเพราะพิพากษาเกินกว่าจำนวนค่าชดเชยที่โจทก์ที่ 1 ขอมาในคำฟ้อง เห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ที่ 1จำนวน 71,280 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง

Share