คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรรมการตรวจฎีกาโจทย์ อุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษ

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๑๘ กล่าวว่า ในคดีหมายเลขดำที่ ๓๙/๒๔๖๑ ซึ่งโจทย์ฟ้องกล่าวโทษนายหมึก นายรุ่ง นายไข่ นายอัดว่า ต่างฝ่ายต่างวิวาทใช้สาตราวุธทำร้ายซึ่งกันแลกัน จนเปนเหตุให้นายขำถูกแทงตายในที่นั้น โจทย์ได้อ้างจำเลยในคดีนี้เปนพยานต่อศาลเบิกความว่าหาได้เห็นนายไข่ นายอัดกระทำร้ายนายรุ่งไม่ ซึ่งผิดกับถ้อยคำที่จำเลยเบิกความในชั้นไต่สวนว่า นายไข่ นายอัดได้กลุ้มรุมต่อยนายรุ่งดังนี้ ถ้อยคำที่จำเลยแจ้งต่ออำเภอจึงเปนความเท็จ ฯ
จำเลยให้การว่าถ้อยคำที่จำเลยให้การไว้ในศาลนั้นเปนความจริง แต่คำให้การในชั้นไต่สวนนั้นจะให้การอย่างไรจำไม่ได้ เพราะนานมาแล้ว ฯ
ศาลจังหวัดตรังสืบนายบุ๋นผู้จดถ้อยคำจำเลยในชั้นไต่สวนแล้ว ฟังว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานดังข้อหาพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๑๘ ให้ปรับจำเลยเปนพินัยหลวง ๓๐ บาท ฯ
โจทย์อุทธรณว่าศาลลงโทษจำเลยน้อยไป ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า ในคดีนี้เปนแต่ถ้อยคำที่จำเลยให้การต่ออำเภอกับถ้อยคำที่เบิกความต่อศาลนั้นไม่ตรงกัน ทั้งเวลาที่จำเลยเบิกความต่อศาลนั้น ก็ไม่ปรากฎว่าโจทย์ฤาศาลได้อ่านคำให้การของจำเลยในชั้นไต่สวนให้จำเลยฟัง เพื่อเตือนความจำของจำเลย แลไม่ได้ให้โอกาศแก่จำเลยที่จะแสดงว่าถ้อยคำของจำเลยนั้นคำไหนเปนคำจริง ทั้งโจทย์ก็ไม่ได้นำสืบว่าถ้อยคำที่จำเลยให้การต่ออำเภอนั้นเปนคำเท็จ เพราะฉนั้นจะลงโทษจำเลยยังมิได้ จึงตัดสินยกคำตัดสินศาลล่างแลยกฟ้องโจทย์เสีย ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ประชุมตรวจสำนวนเรื่องนี้ กับสำนวนหมายเลขที่ ๑๒๑/๒๔๖๑ แล้ว ได้ความว่าในชั้นอำเภอไต่สวนจำเลยเบิกความว่า เวลานั้นเห็นนายขำเพื่อนนายไข่ตรงเข้าต่อยนายรุ่ง ๑ ที แล้วนายขำ นายไข่ นายอัดตรูเข้าไปหานายรุ่งเกิดต่อยกันชุลมุน นายหมึกตรงเข้าแทงนายอัด ๑ ที ครั้นจำเลยมาเบิกความต่อศาลว่าไม่เห็นนายอัด นายไข่ทำร้ายนายรุ่ง นายหมึกเลยดังนี้ ถ้อยคำที่จำเลยเบิกความในชั้นไต่สวนนั้น ผู้ไต่สวนก็มิได้ถามให้ได้ความชัดว่า เวลาที่นายขำ นายไข่ นายอัดตรูเข้าไปที่นายรุ่งนั้น นายไข่ นายอัดได้ชกต่อยนายรุ่งด้วยฤาไม่ เปนแต่จดรวม ๆ ไป เมื่อความไม่ชัด ทั้งโจทย์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าถ้อยคำที่จำเลยให้การต่ออำเภอนั้น จำเลยมีเจตนาจงใจแกล้งแจ้งความเท็จแต่ประการใด เมื่อเปนดังนี้คดียังไม่พอที่จะลงโทษจำเลยได้ ฎีกาโจทย์ฟังไม่ขึ้นให้ยกเสีย ให้ปล่อยตัวจำเลยไปตามคำตัดสินศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษนั้น ฯ
วันที่ ๒ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓

Share