คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายจำเลยยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันสุดท้ายของอายุความฎีกา และได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยจะใช้แทนโจทก์ไป 15 วัน อ้างเหตุว่าจำเลยอาจเจ็บป่วยหรือมาไม่ทันรถ ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาครบ 15 วันจำเลยก็เอาเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายมาวางศาลศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยร้องขอ และศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้ดังกล่าว ได้กระทำก่อนสิ้นอายุความฎีกา และได้พิจารณาเห็นมีพฤติการณ์สมควร จึงสั่งอนุญาต จึงเท่ากับเป็นการขยายเวลาที่จะยื่นฎีกา ย่อมอยู่ในอำนาจที่จะสั่งได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 23 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้ขอไถ่ห้องแถวคืนจากจำเลย ๆ ไม่ยอมให้ไถ่ อ้างว่าบิดามารดาโจทก์ขายขาดให้จำเลยแล้ว จึงขอบังคับให้จำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ห้องรายนี้คืน และขับไล่จำเลยไม่ให้เกี่ยวข้อง ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า บิดามารดาโจทก์ได้ขายห้องแถวพิพาทแก่จำเลยแล้ว ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ห้องแถวพิพาท ฯลฯ
จำเลยฎีกา
โจทก์แก้ฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลชั้นต้นสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมที่จะใช้แทนโจทก์ออกไปอีก ๑๕ วัน เป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ได้ความว่า คดีนี้จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๙๕ (คู่ความฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๙๔) ในวันยื่นฎีกานั่นเอง ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยจะใช้แทนโจทก์ไป ๑๕ วัน อ้างเหตุว่า ตัวจำเลยได้ผัดจะนำเงินมาในวันนี้ แต่บัดนี้ยังไม่เห็นมา เข้าใจว่าจำเลยจะเจ็บป่วยหรือมาไม่ทันรถ ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต ต่อมาวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๕ จำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะใช้แทนโจทก์มาวางศาลศาลชั้นต้นจึงสั่งรับฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยร้องขอและศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้ดังกล่าว ได้กระทำก่อนสิ้นอายุความฎีกาและได้พิจารณาเห็นมีพฤติการณ์สมควร จึงสั่งอนุญาต จึงเท่ากับเป็นการขยายเวลาที่จะยื่นฎีกาย่อมอยู่ในอำนาจที่จะสั่งได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๓ ข้อค้านของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อเท็จจริง ไม่เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ ฯลฯ

Share