แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า การโอนสิทธิการเช่าเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องเมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306 และเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง ก็ดี การตกลงชำระหนี้ตามสัญญากู้ด้วยทรัพย์สินอื่นแทนโดยไม่คำนึงถึงราคาท้องตลาดในขณะส่งมอบขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 656 วรรคสอง จึงเป็นโมฆะก็ดี และจำเลยนำสืบนอกคำให้การและนอกประเด็นก็ดี ล้วนข้อที่โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าอาคารพาณิชย์เลขที่ 178 จากวัดบางเจ้าของกรรมสิทธิ์ ประมาณปี 2514 จำเลยขออาศัยในอาคารดังกล่าว โดยสัญญาว่า เมื่อโจทก์ต้องการอาคารคืนจะออกจากอาคารทันที โจทก์ประสงค์จะให้จำเลยออกจากอาคารดังกล่าวและได้บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารออกจากอาคารดังกล่าวแล้วจำเลยเพิกเฉย โจทก์อาจให้ผู้อื่นเช่าอาคารดังกล่าวได้ในราคาเดือนละ5,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากอาคารดังกล่าว ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไปกับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ในอัตราเดือนละ 5,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไป
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นผู้เช่าอาคารพิพาทจริง แต่โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินกู้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องการที่โจทก์ชำระค่าเช่าอาคารพิพาทแก่วัดบางระหว่างจำเลยครอบครองอาคารพิพาทก็เป็นการชำระค่าเช่าแทนจำเลยเพื่อหักกลบลบหนี้ค่าบุหรี่และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่โจทก์ซื้อไปจากจำเลย และค้างชำระจำเลยจำนวน 43,665.25 บาท โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพราะโจทก์สละสิทธิการเช่าอาคารพิพาทให้แก่จำเลย อาคารพิพาทอาจให้ผู้อื่นเช่าได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งนั่งพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ภาค 2อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าการโอนสิทธิการเช่าเป็นการโอนสิทธิเรียกร้อง เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306และเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสองก็ดี การตกลงชำระหนี้ตามสัญญากู้ด้วยทรัพย์สินอื่นแทนโดยไม่คำนึงถึงราคาท้องตลาดในขณะส่งมอบขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 656 วรรคสอง จึงเป็นโมฆะก็ดี และจำเลยนำสืบนอกคำให้การและนอกประเด็นก็ดี ล้วนเป็นข้อที่โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในขั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน