คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ให้จำคุกจำเลยคนละ 3 เดือน ศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้อัตราโทษเป็นให้ปรับ ไม่มีโทษจำคุกนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษ และเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อย จึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเขตรั้วบ้านของนายแก้ว ปุกบัน และขึ้นไปบนเรือน ทำการตรวจค้นกระเทียมซึ่งมัดไว้เสียหายโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕,๓๕๘ ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๖๕ ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ ๓ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษษแก้เฉพาะโทษให้ลงโทษปรับจำเลยคนละ ๓๐ บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ ให้จำคุกไว้คนละ ๓ เดือน ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๖๕ ดังศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษโดยไม่จำคุกจำเลย เพียงแต่ลงโทษปรับคนละ ๓๐ บาท เห็นว่าเป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษและเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หากจะถือว่าเป็นการแก้ไขมาก แต่คดีนี้ศาลเดิมพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และศาลอุทธรณ์เพียงแต่ลงโทษปรับ ไม่มีโทษจำคุก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์

Share