คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะถูกฟ้องในข้อหาผลิตและมีกัญชาไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายกับข้อหาจำหน่ายกัญชาอันเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ ถึงสามกระทง แต่กัญชา เป็นยาเสพติดให้โทษชนิดที่หาได้ไม่ยาก ของกลางมีน้ำหนักเพียง 24.46 กรัม ปรากฏตามรายงานการสืบเสาะ ของพนักงานคุมประพฤติว่าจำเลยเป็นหญิงมีสามี สามีมีรายได้ ไม่แน่นอน ต้องเลี้ยงดูบิดามารดาซึ่งอายุมากและเลี้ยงดูบุตร อายุ 2 ปี 1 คน ไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยกระทำผิดมาก่อน ตามพฤติการณ์แห่งคดีสมควรให้โอกาสแก่จำเลย กลับตัวเป็นพลเมืองดี จึงสมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 76, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 4, 7, 8ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75(ที่ถูก มาตรา 75 วรรคหนึ่ง), 76 (ที่ถูกมาตรา 76 วรรคสอง),102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528มาตรา 4, 7, 8 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17 กันยายน 2522 ข้อ 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ความผิดฐานผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นกัญชาจำนวนเดียวกันเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ฐานจำหน่าย จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท รวมให้จำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจแล้วและเห็นว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อนควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี โทษปรับไม่ชำระจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบ คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลยและไม่ลงโทษปรับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาว่าสมควรรอการลงโทษจำเลยหรือไม่เห็นว่าแม้จำเลยจะถูกฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษถึงสามกระทง แต่กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดที่หาได้ไม่ยาก ของกลางมีน้ำหนักเพียง 24.46 กรัม ปรากฏตามรายงานการสืบเสาะของพนักงานคุมประพฤติ จำเลยเป็นหญิงมีสามี สามีมีรายได้ไม่แน่นอน ต้องเลี้ยงดูบิดามารดาซึ่งอายุมากและเลี้ยงดูบุตรอายุ2 ปี อีก 1 คน ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อน ตามพฤติการณ์แห่งคดีสมควรให้โอกาสแก่จำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี จึงสมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รอการลงโทษจำคุกและไม่ปรับจำเลยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share