คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเกิดโทสะใช้มีดโต้ ใบมีดกว้างราว 3 นิ้วมือผู้ใหญ่ติดกันยาวราว 1 ฟุต ฟันผู้เสียหายซึ่งเป็นพ่อตา 2 ที ถูกที่ใบหน้า 1 แห่ง แผลเย็บแล้วยาว 14 เซนติเมตร ยาวจากโหนกแก้มอีกข้างหนึ่งพาดผ่านจมูกเต็มใบหน้าเห็นได้ชัด อันเป็นเหตุให้หน้าเสียโฉม อีกแผลหนึ่งที่กลางหลังยาว 9 เซนติเมตร สาเหตุเนื่องจากผู้เสียหายดุด่าลูกจำเลย ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า เพราะถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่า จำเลยต้องฟันมากครั้งกว่านี้และเลือกฟันที่อวัยวะสำคัญมากกว่านี้ได้ ทั้งลักษณะบาดแผลก็ไม่ปรากฏว่าอาจทำให้ถึงอันตรายแก่ชีวิต จำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายสาหัสเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดโต้ฟันนายพรม ภูมูลนา ถึงหน้าเสียโฉม โดยเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐,๒๘๘,๒๙๗ กับริบของกลาง
ชั้นแรกจำเลยปฏิเสธ ต่อมาจำเลยกลับให้การับว่า ได้ใช้มีดโต้ฟันทำร้ายร่างกายนายพรมจริง ที่ทำไปเพราะโมโห ไม่มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นฟังว่า การกระทำของจำเลยเป็นเรื่องเจตนาฆ่านายพรมให้ตาย แต่เป็นการกระทำด้วยโทสะจริตขาดความยับยั้งชั่งใจ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐ วางโทษจำคุก ๑๐ ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้จำเลย ๓ ปี ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๗ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาเพียงทำร้างร่างกายด้วยความโกรธ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗(๔) จำคุกไว้ ๔ ปี จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนตลอดมาจนถึงศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกไว้ ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้ใช้มีดโต้ ใบมีดกว้างราว ๓ นิ้วมือผู้ใหญ่ติดกัน ยาวราว ๑ ฟุต ฟันนายพรม ภูมูลนา ผู้เสียหาย ๒ ครั้ง ถูกที่ใบหน้า ๑ แห่ง แผลเย็บแล้วยาว ๑๔ เซนติเมตร ยาวจากโหนกแก้มอีกข้างหนึ่งพาดผ่านจมูกเต็มใบหน้าเห็นได้ชัด อันเป็นเหตุให้หน้าเสียโฉมติดตัว ส่วนอีกแผลหนึ่งที่กลางหลังยาว ๙ เซนติเมตร ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหายเป็นพ่อค้าจำเลย อยู่ร่วมเรือนเดียวกันตลอดมาจนเกิดเรื่องสาเหตุจะเกิดคดีนี้ปรากฎว่า ผู้เสียหายดุด่าว่าลูกของจำเลยเรื่องไม่ตัดมะละกอก่อน จำเลยจึงเกิดโทสะฟันผู้เสียหายไปสองที หากจำเลยมีเจตนาฆ่า เพราะถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่า จำเลยต้องฟันมากครั้งกว่านี้ และเลือกฟันที่อวัยวะสำคัญมากกว่านี้ได้ เพราะจำเลยเป็นฝ่ายมีอาวุธผู้เสียหายมือเปล่า เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะบาดแผลนี้ที่ผู้เสียหายได้รับ ไม่ปรากฏว่ามีความสาหัสอาจทำให้ถึงแก่อันตรายแก่ชีวิต ตลอดจนพฤติการณ์ที่ปรากฏตามทางพิจารณา ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
พิพากษายืน

Share