คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้น ย่อมมี ความ ผูกพันต่อโจทก์ตามสัญญาตัวแทน เมื่อโจทก์ออกเงินทดรอง ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยอันเป็นการจัดทำกิจการ ตามที่จำเลยมอบหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอา เงินชดใช้ จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816การที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ที่โจทก์ออก เงินทดรองไป จึงเป็นการชำระหนี้ที่มีมูลหนี้โดย ชอบด้วยกฎหมายเมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยจึง ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
แบบการโอนหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น เท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้น ชนิดใดไม่ปรากฏจะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น ซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ ไม่
การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอยเมื่อโจทก์ซื้อ หุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินตามทางที่เคยทำกัน มา ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่ง เป็นตัวการจะต้องรับสนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะ จำเลยก็ต้องรับ ผลแห่งการนั้น จะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด จำนวนเงิน50,000 บาท ซึ่งจำเลยสั่งจ่ายชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เมื่อถึงกำหนดชำระ โจทก์ได้เรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้ศาลบังคับจำเลย

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาชำระเงินจำนวน 52,812.50 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทมอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ที่โจทก์ออกเงินทดรองซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลย แต่โจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากบัญชีของจำเลยปิดแล้ววิธีปฏิบัติของโจทก์ในการซื้อขายหุ้นแทนจำเลยมีดังนี้ คือ เมื่อจำเลยต้องการจะซื้อหุ้นจำนวนเท่าใด ราคาหุ้นละเท่าใด ในวันเวลาใด โจทก์ก็จะซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ให้ตามที่จำเลยประสงค์ ซึ่งอาจซื้อจากบริษัทเดียวหรือหลายบริษัทก็ได้เมื่อซื้อได้แล้วไม่ได้โอนใส่ชื่อโจทก์ในฐานะเป็นตัวแทนของจำเลยหรือโอนใส่ชื่อจำเลยคงปล่อยให้ลอยไว้เช่นนั้น เมื่อจำเลยต้องการขายก็จะแจ้งไปยังโจทก์เพื่อขายให้ตามวันเวลาและราคาที่จำเลยแจ้งไป ปฏิบัติกันเช่นนี้เป็นปกติในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นการโอนลอย และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้น ย่อมมีความผูกพันต่อโจทก์ตามสัญญาตัวแทน เมื่อโจทก์ออกเงินทดรองซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลย อันเป็นการจัดทำกิจการตามที่จำเลยมอบหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอาเงินชดใช้จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตา 816 ดังนั้น ที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คมอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปดังกล่าวจึงเป็นการชำระหนี้ที่มีมูลหนี้โดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้จำเลยจะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในระหว่างผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ตกลงซื้อขายหุ้นโดยการโอนลอยนิติกรรมเป็นโมฆะการทดลองจ่ายเงินตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่เป็นโมฆะย่อมไม่มีผลต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม คือหุ้นต้องสิ้นไป และเงินต้องรับกลับมา โจทก์จะนำเอาสัญญาที่เป็นโมฆะมาเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ไม่ได้นั้น

ศาลฎีกาเห็นว่า การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โดยการโอนลอยนิติกรรมจะตกเป็นโมฆะเพราะเหตุใด จำเลยมิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาโดยชัดแจ้งถ้าจะว่าเป็นโมฆะ เพราะทำไม่ถูกต้องตามแบบการโอนหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสอง ดังที่จำเลยหยิบยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ แบบดังกล่าวก็ใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นเท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้นชนิดใดไม่ปรากฏ จะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ไม่ แต่อย่างไรก็ดี การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอยนั้น เมื่อโจทก์ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินการตามทางที่เคยทำกันมาย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่งเป็นตัวการจะต้องรับจำนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะ จำเลยก็จะต้องรับผลแห่งการนั้นจะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่

Share