คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/4 นั้น บัญญัติว่า ในบางคดีความ ในทางราชการ หรือทางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม วัน หมายความว่า เวลาทำการตามปีที่ได้กำหนดขึ้นโดยกฎหมาย คำสั่งศาล หรือระเบียบข้อบังคับ หรือเวลาทำการตามปกติของกิจการนั้น แล้วแต่กรณี หมายถึง ในการต้องติดต่อราชการเช่นการฟ้องคดี การยื่นคำร้อง คำขอ ต่อศาล ก็ต้องทำภายในเวลา 16.30 นาฬิกา หรือธุรกรรมในทางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมพึงต้องทำในวันเวลาทำการตามปกติที่กำหนดไว้ของกิจการนั้น เช่นเดียวกัน แต่การนับระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นรอการลงโทษให้แก่จำเลยจนถึงวันที่จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้ เพื่อนำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หาใช่เป็นการติดต่อ ราชการตามนัยมาตรา 193/4 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ การนับระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ 20 มีนาคม 2542 จะต้องครบ 1 ปี ในวันที่ 20 มีนาคม 2543 เวลา 24 นาฬิกา อันเป็นการนับวันเวลาตามปกตินั่นเอง ศาลบวก โทษจำคุกในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง และบวกโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญํติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง จำคุก 10 ปี บวกโทษจำคุก 15 วัน ที่รอไว้ เป็นจำคุก 10 ปี 15 วัน ริบเมทแอมเฟตามีน ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/4 บัญญัติว่า “ในทางคดีความในทางราชการ หรือ ทางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม วัน หมายความว่า เวลาทำการตามที่ได้กำหนดขึ้นโดยกฎหมาย คำสั่งศาล หรือระเบียบข้อบังคับ หรือเวลาทำการตามปกติของกิจการนั้น แล้วแต่กรณี” หมายถึงในการต้องติดต่อราชการเช่นการฟ้องคดี การยื่นคำร้อง คำขอต่อศาลก็ต้องทำภายในเวลา 16.30 นาฬิกา หรือทำธุรกรรมในทางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมพึงต้องทำในวันเวลาทำการตามปกติที่กำหนดไว้ของกิจการนั้นเช่นเดียวกัน แต่การนับระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นรอการลงโทษให้แก่จำเลยจนถึงวันที่จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้ เพื่อนำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 หาใช่เป็นการติดต่อ ราชการตามนัยมาตรา 193/4 ไม่ จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2543 เวลา 19.45 นาฬิกา การนับระยะเวลา 1 ปี จึงต้องนับแต่วันที่ 20 มีนาคม 2542 และจะต้องไปครบ 1 ปี ในวันที่ 20 มีนาคม 2543 เวลา 24 นาฬิกา อันเป็นการนับวันเวลาตามปกตินั่นเอง ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์บวกโทษจำคุกในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
อนึ่ง ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 8 และมาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 15 และมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และใช้ ข้อความใหม่แทน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม) 66 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) ส่วนกำหนดโทษและนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share