คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำฟ้องโจทก์ที่ว่า จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ใช้อาวุธปืนยิงฆ่า ด.ผู้ตายกระสุนปืนถูกด.ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา เป็นคำฟ้องที่บรรยายชัดแจ้งแล้ว จำเลยทั้งสองย่อมเข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดีว่าถูกฟ้องฐานใช้อาวุธปืนยิงด. จนถึงแก่ความตาย โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อาวุธปืนชนิดใด กระสุนปืนประกอบด้วยหัวกระสุนปืนชนิดใดเพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายแดง สุปัญโญ 1 นัด โดยเจตนาฆ่าให้ตาย กระสุนปืนถูกนายแดง สุปัญโญ ที่บริเวณลำคอ กราม และไหล่ซ้ายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 288
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ให้จำคุกคนละ 15 ปี จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายโดยไม่ได้ระบุว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงตลอดจนเครื่องกระสุนปืนหรือส่วนประกอบของเครื่องกระสุนปืนเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนชนิดใด จึงขาดรายละเอียดที่เกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์นั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนแล้วว่า จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ใช้อาวุธปืนยิงฆ่านายแดงสุปัญโญ ผู้ตาย กระสุนปืนถูกนายแดงได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ปรากฏตามรายงานการชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้อง จำเลยทั้งสองเข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดีว่าถูกฟ้องฐานใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตาย โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อาวุธปืนชนิดใด กระสุนปืนประกอบด้วยหัวกระสุนปืนชนิดใดด้วยไม่ เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฎีกาจำเลยที่ 1 ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์เสีย

Share