แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศ โจทก์มิได้ส่งสำเนาคำแปลให้แก่จำเลยร่วม ก็ไม่เป็นเหตุให้ถึงกับจะรับฟังเอกสารดังกล่าวไม่ได้ เพราะว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 46 เพียงบัญญัติ ให้ศาลสั่งคู่ความฝ่ายที่สั่งให้ทำคำแปลแนบไว้กับต้นฉบับเท่านั้น และปรากฏว่าโจทก์ได้ทำคำแปลเอกสารส่งศาลแล้ว ศาลย่อมรับฟังเอกสาร ดังกล่าวได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า บริษัททักษิณสมุทร จำกัด ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1ขนส่งสินค้าปลาหมึกกระดองแช่แข็งจำนวน 750 กล่อง ราคา 550,000 บาทจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มายังกรุงเทพมหานคร โดยจำเลยที่ 1ต้องบรรทุกสินค้าในรถบรรทุกตู้เย็นที่มีเครื่องทำความเย็น ซึ่งจำเลยที่ 1 ตกลงรับขน และขนสินค้ามาในรถบรรทุกตู้เย็น คันหมายเลขทะเบียน80 – 1147 สมุทรสงคราม บริษัททักษิณสมุทร จำกัด ได้ประกันภัยสำหรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่สินค้าในระหว่างการขนส่งไว้กับโจทก์ภายในวงเงิน 550,000 บาท เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2526 เวลา2.40 นาฬิกา ขณะที่รถบรรทุกตู้เย็นดังกล่าวแล่นมาถึงบริเวณใกล้ทางแยกเข้าหมู่บ้านทุ่งสีเสียด หมู่ที่ 8 ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์โดยสารสายกรุงเทพมหานคร – ระนอง คันหมายเลขทะเบียน น.ฐ. 10 – 0067 แล่นสวนทางจากกรุงเทพมหานคร มุ่งไปจังหวัดระนองด้วยความประมาทพุ่งชนด้านหน้ารถบรรทุกสินค้าของจำเลยที่ 1 ทำให้รถบรรทุกสินค้าและเครื่องทำความเย็นเสียหายไม่สามารถรักษาระดับอุณหภูมิของสินค้าไว้ได้ สินค้าปลาหมึกกระดองแช่แข็งเสียหายเป็นเงิน 192,500 บาทความเสียหายของสินค้าดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง จำเลยที่ 1ในฐานะผู้รับขนมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัททักษิณสมุทร จำกัด และจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัททักษิณสมุทร จำกัด ด้วย เพราะเป็นผลที่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 กระทำในทางการที่จ้าง หลังเกิดเหตุบริษัททักษิณสมุทร จำกัดเรียกร้องให้โจทก์ในฐานะผู้รับประกันชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหาย 192,500 บาท ให้บริษัททักษิณสมุทร จำกัด แล้วจึงรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยทั้งสามโจทก์ให้ทนายความทวงถามจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยทั้งสองไม่ชำระขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหาย 192,500บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
จำเลยที่ 1 ให้การว่า บริษัททักษิณสมุทร จำกัด ไม่ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งสินค้าปลาหมึกกระดองแช่แข็ง จำนวน 750 กล่องราคา 550,000 บาท จากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มายังกรุงเทพมหานครโดยรถยนต์บรรทุกตู้เย็นค้นหมายเลขทะเบียน 80 – 1147 สมุทรสงครามและรถยนต์บรรทุกดังกล่าวไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์ไม่ได้รับประกันภัยสินค้าจากบริษัททักษิณสมุทร จำกัด ผู้ขับรถยนต์โดยสารคันหมายเลขทะเบียนน.ฐ. 10 – 0067 ไม่ใช่ลูกจ้างกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์โดยสารคันดังกล่าวเหตุที่รถชนกันในคดีนี้ไม่ใช่ความประมาทของผู้ขับรถยนต์โดยสารคันหมายเลขทะเบียน น.ฐ. 10 – 0067 ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนชี้สองสถาน นายแสงชัย แซ่เตียว ร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมอ้างว่าได้ทำสัญญาไว้ต่อจำเลยที่ 2 ว่า หากรถยนต์โดยสารหมายเลขทะเบียน น.ฐ. 10 – 0067 ซึ่งรับส่งคนโดยสารในเส้นทางของจำเลยที่ 2ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นตนจะต้องเป็นผู้รับผิดชดใช้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยร่วมให้การว่า บริษัททักษิณสมุทร จำกัด ไม่ใช่เจ้าของสินค้าปลาหมึกกระดองแช่แข็งตามฟ้อง จึงไม่มีสิทธินำทรัพย์สินดังกล่าวมาประกันภัยกับโจทก์ สัญญาประกันภัยจึงไม่มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่ได้รับประกันภัยสินค้าจากบริษัททักษิณสมุทรจำกัด ไม่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้บริษัททักษิณสมุทร จำกัดจึงไม่มีสิทธิในการรับช่วงสิทธิ เหตุที่รถชนกันคดีนี้เกิดจากความประมาทของรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน 80 – 1147 สมุทรสงครามฝ่ายเดียวขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมร่วมกันชำระค่าเสียหาย 192,500 บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องทรัพย์ที่เอาประกันภัยและค่าสินไหมทดแทน พยานโจทก์มีนายวิสิทธิ์เบิกความว่า บริษัททักษิณสมุทรจำกัด ได้ประกันภัยการขนส่งปลาหมึกกระดองแช่แข็งตามเอกสารหมาย จ.2และได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเอกสารหมาย จ.10 ทั้งตามคำเบิกความของนายสิทธิศักดิ์ ชาติทอง ซึ่งเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุก็ได้ความว่าเป็นผู้รับจ้างขนส่งปลาหมึกกระดองแช่แข็งรายเกิดเหตุให้แก่บริษัททักษิณสมุทร จำกัด แม้โจทก์จะไม่ได้นำผู้จัดการบริษัททักษิณสมุทร จำกัด มาเบิกความยืนยันในเรื่องนี้ แต่พยานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าปลาหมึกกระดองแช่แข็งเป็นของบริษัททักษิณสมุทรจำกัด และได้ประกันภัยไว้กับโจทก์ ฝ่ายจำเลยไม่มีพยานใดสืบหักล้างให้เห็นว่าทรัพย์ที่ประกันภัยมิใช่ของบริษัททักษิณสมุทร จำกัดหรือโจทก์มิได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างจำเลยอ้าง ส่วนเอกสารที่จำเลยร่วมอ้างว่าเป็นภาษาต่างประเทศโจทก์มิได้ส่งสำเนาคำแปลให้แก่จำเลยร่วมนั้น ก็ไม่เป็นเหตุให้ถึงกับจะรับฟังเอกสารดังกล่าวไม่ได้ เพราะว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 46 เพียงบัญญัติให้ศาลสั่งคู่ความฝ่ายที่ส่งให้ทำคำแปลแนบไว้กับต้นฉบับเท่านั้นและปรากฏว่าโจทก์ได้ทำคำแปลเอกสารส่งศาลแล้ว ศาลย่อมรับฟังเอกสารดังกล่าวได้ ดังนั้น เมื่อโจทก์มีพยานเบิกความยืนยันพร้อมทั้งเอกสารประกอบ พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ว่า ปลาหมึกกระดองแช่แข็งเป็นของบริษัททักษิณสมุทร จำกัด และได้เอาประกันภัยโจทก์ไว้ และโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้บริษัททักษิณสมุทร จำกัดแล้ว
พิพากษายืน.
