คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15455/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ประเด็นในคดีนี้กับคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อโจทก์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ เช่นเดียวกัน แต่มูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดังกล่าวอันเป็นการโต้แย้งสิทธิที่ก่อให้โจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นแตกต่างกัน มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ทั้งมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยังเป็นการกระทำคนละช่วงวันเวลากัน จึงเป็นการที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกัน ชอบที่โจทก์จะใช้สิทธิฟ้องเป็นคนละคดีได้ และแม้โจทก์จะฟ้องกล่าวอ้างเรียกให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัท บ. ใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ โดยอาศัยมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ด้วยการแต่งตั้งให้บุคคลอื่นเป็นตัวแทนจัดหาผู้รับอนุญาตผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกจำหน่าย และทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นจัดทำวิดีโอเทปออกจำหน่าย ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย ก็เป็นการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ กับบริษัท ร. บริษัท ซ. บริษัท ท. และบริษัท น. อันเป็นคู่สัญญาคนละรายกันกับบุคคลที่โจทก์กล่าวอ้างว่ามีการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ รวมจำนวนเกือบ 30 ราย ในคดีนี้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการทำละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้จากการอนุญาตให้บริษัท อ. ผลิตสมุดระบายสีโดยทำซ้ำหรือดัดแปลงคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวเป็นนิติบุคคลเดียวกันกับบริษัท บ. ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ทั้งยังปรากฏตามสัญญาการให้ใบอนุญาตในคดีนี้ว่าโจทก์กล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้เป็น “สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ทำขึ้นวันที่ 13 กันยายน 2543 อนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานศิลปประยุกต์ “ผลงานหนุมาน VS เจ็ดยอดมนุษย์” ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2543 ถึงวันที่ 12 กันยายน 2549 และบันทึกต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวว่าเป็นการชำระเงินค่าตอบแทนการขยายระยะเวลาตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวออกไปอีก 5 ปี กับสัญญาการให้ใบอนุญาตอันเป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานภาพยนตร์เรื่องยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ และเรื่องยอดมนุษย์จัมโบ้เอ อันเป็นมูลเหตุแห่งการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกันกับที่โจทก์กล่าวอ้างดำเนินคดีในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงยังถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้วินิจฉัยการกระทำอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ที่โจทก์กล่าวอ้างในคดีนี้แล้ว นอกจากนี้แม้ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องคดีก่อนเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสี่ในคดีก่อนซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ จะหยุดการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า ศาลวินิจฉัยและกำหนดค่าเสียหายจากการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ซึ่งเป็นการกระทำเป็นครั้งคราวก่อนโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวเท่านั้น หากภายหลังวันฟ้องคดีก่อนจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้กระทำการใดอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์อีก ชอบที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ภายหลังวันฟ้องนั้น กรณีไม่อาจกำหนดค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องในคดีก่อนให้แก่โจทก์ได้ และการที่โจทก์มีคำขอท้ายคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้หยุดกระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้อ้างตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือเป็นผู้มีสิทธิแต่ผู้เดียวในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวง และห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ทำสัญญามอบสิทธิหรือลิขสิทธิ์ในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวงเหล่านี้ให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งหมายถึงการละเว้นการกระทำดังกล่าวหลังจากวันที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นต้นไปนั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า คำขอบังคับของโจทก์ดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำในอนาคตซึ่งยังมิได้มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางซึ่งหมายถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2540 โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวได้ จึงถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 ในคดีนี้มิได้เป็นคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งหกรายว่ากระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์เป็นคดีนี้จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคำฟ้องส่วนแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ถึงที่ 6 ร่วมกันและแทนกันชำระค่าเสียหายจำนวน 1,000,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันและแทนกันชำระค่าเสียหายอีกจำนวน 500,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ห้ามมิให้จำเลยทั้งหกอ้างสิทธิใด ๆ ในผลงานอุลตร้าแมนต่าง ๆ ทั้งปวงที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้น รวมทั้งห้ามอ้างสิทธิในผลงานจัมบอร์กเอซและอันโดรเมรอส และห้ามมิให้จำเลยทั้งหกอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนทั้งปวงของโจทก์ รวมทั้งผลงานจัมบอร์กเอซและอันโดรเมรอส
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ชั้นชี้สองสถาน ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทดังนี้
ข้อ 1 โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่
ข้อ 2 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากโจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจเพียงฉบับเดียว และนำหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องคดีอื่น โดยส่งหลักฐานเป็นสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับ โดยเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระค่าอากรเพิ่มเติมตามกฎหมายหรือไม่
ข้อ 3 คำฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคำฟ้องในคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่
ข้อ 4 คำฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้อนกับคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ ทป.149/2547 หมายเลขแดงที่ ทป.28/2550 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่
ข้อ 5 สิทธิเรียกร้องตามคำฟ้องของโจทก์ขาดอายุความละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ข้อ 6 คำฟ้องของโจทก์ในส่วนค่าเสียหาย และในส่วนผลงานจัมบอร์กเอซ และอันโดรเมรอสเคลือบคลุมหรือไม่
ข้อ 7 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 เนื่องจากจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้รับสิทธิในงานอันมีลิขสิทธิ์ตามคำพิพากษาในคดีของศาลประเทศญี่ปุ่น คดีหมายเลข (วะ) 12140 ปี 2544 ศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลข (เนะ) 1532 ปี 2544 อันเป็นการผูกพันโจทก์คดีนี้หรือไม่
ข้อ 8 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 6 เนื่องจากจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ไม่ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 6 ทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิโดยตนเอง หรือเพียงแต่ได้รับมอบหมายให้ชักชวนบุคคลอื่นเข้าทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิกับจำเลยที่ 1 เท่านั้นหรือไม่
ข้อ 9 จำเลยทั้งหกละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์หรือไม่
ข้อ 10 จำเลยที่ 5 ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นการส่วนตัวจากบริษัทจำเลยที่ 6 หรือไม่
ข้อ 11 โจทก์เสียหายเพียงใด
ประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 6 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลวินิจฉัยได้เอง ประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 ข้อ 5 ข้อ 9 และข้อ 11 โจทก์กล่าวอ้าง ฝ่ายจำเลยปฏิเสธ ภาระการพิสูจน์ตกอยู่แก่โจทก์ ส่วนประเด็นข้อพิพาทข้อ 2 ข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 10 ฝ่ายจำเลยยกข้อเท็จจริงขึ้นต่อสู้ใหม่ ภาระการพิสูจน์จึงตกอยู่แก่ฝ่ายจำเลย
ระหว่างสืบพยานโจทก์ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกเลิกการกำหนดประเด็นข้อพิพาทเดิม แล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทใหม่ดังนี้
ข้อ 1 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย และโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระค่าอากรเพิ่มเติมตามกฎหมายหรือไม่
ข้อ 2 คำฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคำฟ้องในคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่
ข้อ 3 คำฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้อนกับคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ ทป.149/2547 หมายเลขแดงที่ ทป.28/2550 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่
ข้อ 4 สิทธิเรียกร้องตามคำฟ้องของโจทก์ขาดอายุความหรือไม่
ข้อ 5 คำฟ้องของโจทก์ในส่วนค่าเสียหาย และในส่วนผลงานจัมบอร์กเอซ และอันโดรเมรอสเคลือบคลุมหรือไม่
ข้อ 6 โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้โดยอาศัยสิทธิที่อ้างว่าได้รับการรับรองตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7457/2550 หรือไม่
ข้อ 7 จำเลยทั้งหกต้องรับผิดต่อโจทก์ตามคำฟ้องหรือไม่ เพียงใด
ประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 และข้อ 7 โจทก์กล่าวอ้าง จำเลยทั้งหกปฏิเสธ ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ ประเด็นข้อพิพาทข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลวินิจฉัยได้เอง สำหรับประเด็นข้อพิพาทข้อ 6 คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงรับกันว่าคำพิพากษาของศาลในประเทศญี่ปุ่นซึ่งพิพากษายกฟ้องโจทก์ถึงที่สุดโดยวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ได้รับสิทธิจากโจทก์ในผลงานอุลตร้าแมนต่าง ๆ ในทุกประเทศทั่วโลกยกเว้นที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสัญญาที่พิพาทเป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริงไม่ใช่เอกสารปลอม ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในประเทศญี่ปุ่น ตามคดีหมายเลข (วะ) 12140 ปี 2544 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ของประเทศญี่ปุ่นตามคดีหมายเลข (เนะ) 1532 ปี 2544 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2546 คดีถึงที่สุดในชั้นศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเนื่องจากศาลฎีกาของประเทศญี่ปุ่นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้ว เห็นว่า ประเด็นข้อพิพาทส่วนใหญ่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหก แล้ววินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นข้อพิพาทข้อ 2 ถึงข้อ 6 ข้างต้น ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 โดยวินิจฉัยว่าคำฟ้องโจทก์ในส่วนค่าเสียหาย และในส่วนผลงานจัมบอร์กเอซ และอันโดรเมรอสไม่เคลือบคลุม แต่คำฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นฟ้องซ้ำกับคำฟ้องในคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ส่วนจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 แม้ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อน แต่คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุแห่งความรับผิดของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ก่อน คำฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 จึงต้องห้ามในคดีนี้เช่นกัน กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายที่เหลือต่อไป แล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังได้ยุติในเบื้องต้นว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดตามกฎหมายญี่ปุ่น ประกอบธุรกิจวางแผน ผลิต และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ รวมทั้งดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการรับจ้างบันทึกหรือผลิตเทปบันทึกเสียง เทปวิดีโอภาพยนตร์ ซื้อขาย ผลิต เช่า ให้เช่า จัดหาหรือจำหน่ายสินค้าเทปบันทึกเสียงวิดีโอเทป โดยมีจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยที่ 3 และที่ 4 ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยที่ 4 และที่ 6 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2540 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คเอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด เป็นจำเลยต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในข้อหาร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนต่าง ๆ และแจ้งความเท็จ แล้วเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์และละเมิดจากการแจ้งความเท็จนั้น เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คเอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัดให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้องในส่วนแพ่ง จำเลยที่ 1 และที่ 3 ฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้สร้างสรรค์ร่วมกันกับโจทก์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ตั้งแต่ปี 2509 ต่อมาวันที่ 4 มีนาคม 2519 โจทก์โดยนายโนโบรุ ประธานบริษัทโจทก์ในขณะนั้นทำสัญญาโอนสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นดังกล่าวแก่จำเลยที่ 1 ทั้งหมด โจทก์ให้การต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2543 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งคดีส่วนอาญาและคดีส่วนแพ่ง กับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายตามฟ้องแย้งแก่จำเลยที่ 1 โจทก์และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กับบริษัทบุ๊คเอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7457/2550 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 นอกจากนี้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2547 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 3 อ้างว่าละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานและคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนต่าง ๆ เพื่อเรียกค่าเสียหายต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ ทป.149/2547 ต่อมาวันที่ 2 เมษายน 2550 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ทป.28/2550 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และโจทก์ยังได้ฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่อศาลในประเทศญี่ปุ่น กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนต่าง ๆ ต่อมาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 ศาลชั้นต้นแห่งประเทศญี่ปุ่นมีคำพิพากษาว่าสัญญาฉบับวันที่ 4 มีนาคม 2519 เป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 10 ธันวาคม 2546 ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศญี่ปุ่นพิพากษายืน โจทก์ฎีกา และเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 ศาลฎีกาแห่งประเทศญี่ปุ่นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการแรกว่า การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำกับคำฟ้องในคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หรือไม่ เห็นว่า ในคดีนี้ตามคำฟ้องของโจทก์มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กับจำเลยที่ 5 และที่ 6 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ด้วยการร่วมกันอนุญาตให้บุคคลอื่นรวมจำนวน 26 ราย ใช้สิทธิในการทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนอันเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ในทางการค้าของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กับจำเลยที่ 5 และที่ 6 โดยได้รับค่าสิทธิตอบแทนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 6 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการทำซ้ำหรือดัดแปลงภาพยนตร์ชุดอุลตร้าแมนต่าง ๆ ที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้น แล้วผลิตวีดิทัศน์และซีดีนำออกจำหน่ายและเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือเพื่อหากำไรหรือไม่ นอกจากนี้ตามคำฟ้องของโจทก์ยังมีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยด้วยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการร่วมกันนำเอาคาแรกเตอร์ตัวละครซึ่งจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ด้วยการลอกเลียนและดัดแปลงจากคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนต่าง ๆ ของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ แล้วร่วมกันกับบริษัทริวชิ คัลเจอร์ ดีเวลลอปปิ้ง จำกัด ซึ่งอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อสร้างภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ชื่อว่า “โปรเจ็กอุลตร้าแมน” แล้วเตรียมนำออกฉายทางสถานีโทรทัศน์และเผยแพร่โฆษณาทั่วโลกหรือไม่ ทั้งยังมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยอีกว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการร่วมกันอนุญาตให้ผู้อื่นรวมจำนวน 3 ราย ใช้สิทธิทำซ้ำ ดัดแปลง ผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกจำหน่ายเพื่อประโยชน์ทางการค้าของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนมิลเลนเนียม ดาร์คอุลตร้าแมน และอุลตร้าแมนอีลิทหรือเอลิทที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ทั้งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์หรือไม่ และยังมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยต่อไปอีกด้วยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการร่วมกันนำตัวอย่างภาพยนตร์ชุดโปรเจ็กอุลตร้าแมนออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์ทางการค้าของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 หรือไม่ ส่วนคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีประเด็นที่ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการร่วมกันทำซ้ำและดัดแปลงรูปภาพ ตัวงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานศิลปกรรมอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ในภาพยนตร์ชุดยอดมนุษย์ แล้วนำรูปภาพอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ที่ได้ทำซ้ำและดัดแปลงนั้นมาจัดทำเป็นสมุดภาพระบายสีขึ้น โดยบริเวณปกด้านหน้า ด้านหลัง และด้านในของสมุดภาพระบายสีดังกล่าวมีรูปภาพที่เป็นตัวงานที่เรียกว่าอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ที่ทำซ้ำและดัดแปลงดังกล่าว อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์หรือไม่ และมีประเด็นที่ศาลวินิจฉัยด้วยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์ด้วยการร่วมกันจัดพิมพ์สมุดภาพระบายสีดังกล่าวข้างต้นโดยพิมพ์ข้อความไว้ที่บริเวณปกด้านในของสมุดภาพระบายสีว่า จำเลยที่ 1 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 3 ในคดีนี้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในตัวงานที่เรียกว่าอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ และมอบให้บริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด เป็นผู้มีสิทธิขาย เสนอขาย หรือจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แล้วนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อขายหรือมีไว้เพื่อขาย เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์หรือไม่ ทั้งยังมีประเด็นที่ศาลวินิจฉัยด้วยว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในคดีนี้ร่วมกันกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จหรือไม่ และการแจ้งความเท็จนั้นเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ แม้ประเด็นในคดีนี้กับคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดังกล่าวมาข้างต้นมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อโจทก์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ เช่นเดียวกัน แต่มูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดังกล่าวอันเป็นการโต้แย้งสิทธิที่ก่อให้โจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นแตกต่างกัน มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ทั้งมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยังเป็นการกระทำคนละช่วงวันเวลากัน โดยในคดีนี้โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กับจำเลยที่ 5 และที่ 6 กระทำการอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2541 ถึงวันฟ้องคดีนี้คือวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 6 กระทำการอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตั้งแต่ปี 2541 จนกระทั่งวันฟ้องคดีนี้คือวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 ส่วนจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ร่วมกันกระทำการอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตั้งแต่เมื่อประมาณต้นปี 2548 จนกระทั่งปัจจุบันคือวันฟ้องคดีนี้ ได้แก่ วันที่ 8 พฤษภาคม 2551 กับตั้งแต่กลางปี 2548 ถึงวันฟ้องคดีนี้ ตามลำดับ ในขณะที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด ร่วมกันกระทำการอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางตั้งแต่ระหว่างวันที่ 11 กันยายน 2539 ถึงวันฟ้องคดีก่อนคือวันที่ 16 ธันวาคม 2540 และระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2539 ถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2540 ตามลำดับ จึงเป็นการที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกัน ชอบที่โจทก์จะใช้สิทธิฟ้องเป็นคนละคดีได้ และแม้โจทก์จะฟ้องกล่าวอ้างเรียกให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด ใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ โดยอาศัยมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ด้วยการแต่งตั้งให้บุคคลอื่นเป็นตัวแทนจัดหาผู้รับอนุญาตผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกจำหน่าย และทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นจัดทำวิดีโอเทปออกจำหน่าย ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย ก็เป็นการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ กับบริษัทไร้ท์ ดีเอทีฟ จำกัด บริษัทซี.พี.เซเว่น อีเลฟเว่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัททีไอจีเอหรือไทก้า จำกัด และบริษัทไร้ท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด อันเป็นคู่สัญญาคนละรายกันกับบุคคลที่โจทก์กล่าวอ้างว่ามีการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ รวมจำนวนเกือบ 30 ราย ในคดีนี้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการทำละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้จากการอนุญาตให้บริษัทเอเธนส์บุ๊คส์ (1997) จำกัด ผลิตสมุดระบายสีโดยทำซ้ำหรือดัดแปลงคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ปรากฏว่าบริษัทเอเธนส์บุ๊คส์ (1997) จำกัด เป็นนิติบุคคลเดียวกันกับบริษัทบุ๊คส์เอเธนส์ จัดจำหน่าย จำกัด ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ทั้งยังปรากฏตามสัญญาการให้ใบอนุญาตในคดีนี้ว่าโจทก์กล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้เป็น “สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ทำขึ้นวันที่ 13 กันยายน 2543 อนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานศิลปประยุกต์ ผลงานหนุมาน VS เจ็ดยอดมนุษย์” ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2543 ถึงวันที่ 12 กันยายน 2549 ในคดีนี้ ซึ่งเป็นบันทึกต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวว่าเป็นการชำระเงินค่าตอบแทนการขยายระยะเวลาตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวออกไปอีก 5 ปี ในคดีนี้ซึ่งเป็นสัญญาการให้ใบอนุญาตอันเป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานภาพยนตร์เรื่องยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ และเรื่องยอดมนุษย์จัมโบ้เอ อันเป็นมูลเหตุแห่งการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกันกับที่โจทก์กล่าวอ้างดำเนินคดีในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงยังถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้วินิจฉัยการกระทำอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ที่โจทก์กล่าวอ้างในคดีนี้แล้ว นอกจากนี้แม้ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องคดีก่อนเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสี่ในคดีก่อนซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ จะหยุดการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า ศาลวินิจฉัยและกำหนดค่าเสียหายจากการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ซึ่งเป็นการกระทำเป็นครั้งคราวก่อนโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวเท่านั้น หากภายหลังวันฟ้องคดีก่อนจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้กระทำการใดอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์อีก ชอบที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ภายหลังวันฟ้องนั้น กรณีไม่อาจกำหนดค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องในคดีก่อนให้แก่โจทก์ได้ และการที่โจทก์มีคำขอท้ายคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้หยุดกระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้อ้างตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือเป็นผู้มีสิทธิแต่ผู้เดียวในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวง และห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ทำสัญญามอบสิทธิหรือลิขสิทธิ์ในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวงเหล่านี้ให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งหมายถึงการละเว้นการกระทำดังกล่าวหลังจากวันที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นต้นไปนั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า คำขอบังคับของโจทก์ดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำในอนาคตซึ่งยังมิได้มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางซึ่งหมายถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2540 โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวได้ จึงถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 ในคดีนี้มิได้เป็นคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งหกรายว่ากระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์เป็นคดีนี้จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคำฟ้องส่วนแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางแต่อย่างใด ดังนี้ การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่าคำฟ้องโจทก์คดีนี้สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นฟ้องซ้ำกับคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ส่วนจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 แม้จะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อน แต่คดีนี้มีประเด็นต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุความรับผิดของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ก่อน คำฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 จึงต้องห้ามในคดีนี้เช่นกันนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้วประกอบกับปรากฏข้อเท็จจริงว่าศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าคำฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม ข้อเท็จจริงเท่าที่โจทก์สืบพยานมาโดยที่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการถามค้านของฝ่ายจำเลยทั้งหก และกระบวนการถามติงของโจทก์ ทั้งยังมิได้สืบพยานจำเลยทั้งหก จึงไม่เป็นการเพียงพอให้วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาท จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษาใหม่ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งงดสืบพยานของโจทก์ต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

Share