คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีเครื่องยนตร์ทำไฟฟ้า 3 เครื่องแรงม้าต่าง ๆ กันผลัดเปลี่ยนกันในการทำกระแสร์ไฟฟ้าจำหน่ายเช่นนี้ การเรียกเก็บภาษีการค้าจักต้องเรียกเก็บตามแรงม้าของเครื่องยนตร์ทั้ง 3 เครื่องรวมกัน มิใช่เรียกเก็บเฉพาะเครื่องยนตร์ที่มีแรงม้าสูงที่สุดแต่เครื่องเดียวไม่ อุทธรณ์ฎีกา ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.248,249 คดีแพ่งทุนทรัพย์ที่เรียกร้องไม่เกิน 2,000 บาท ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และต้องเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์มีเครื่องยนตร์ทำไฟฟ้าอยู่ ๓ เครื่องมีแรงม้าต่าง ๆ กันโรงไฟฟ้าของโจทก์ใช้เครื่องเหล่านี้ทุกเครื่องโดยผลัดเปลี่ยนกัน ครั้นถึงคราวประเมินเก็บภาษีการค้าจากโจทก์ ผู้แทนของจำเลยได้เรียกเก็บตามแรงม้าของเครื่องยนตร์ทั้ง ๓ เครื่องรวมกันในอัตราแรงม้าละ ๒ บาท และเรียกเพิ่มจากที่เก็บขาดสำหรับ พ.ศ.๒๔๗๖,๒๔๗๗ และ ๒๔๗๘ ซึ่งโจทก์ได้ชำระให้ไปแล้ว จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้ขึ้น อ้างว่าโจทก์ควรเสียภาษีเฉพาะเครื่องยนตร์ที่มีแรงม้าสูงที่สุดแต่เครื่องเดียว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยได้เก็บภาษีถูกต้องแล้วจึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาว่า (๑) คำว่า “กำลังสูงของเครื่องจักร์ในปีที่ล่วงมาแล้วคิดเป็นแรงม้า ” ตามพิกัดอัตราฉะบับที่ ๒ ท้ายพ.ร.บ.ภาษีการค้า ๒๔๗๕ ประเทศ ๓ นั้นหมายความเพียงไร (๒) คำว่าเครื่องจักร์ในพิกัดอัตราฉะบับที่ ๒ นั้นหมายความถึงเครื่องยนตร์ด้วยหรือไม่ (๓) จำเลยเรียกเก็บภาษีโจทก์เกินจริงหรือไม่
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้โจทก์ฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้นและต้องเป็นข้อที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ปัญหาข้อที่ ๒ ในฎีกาของโจทก์เป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ส่วนปัญหาข้อ ๓ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวเนื่องกับข้อ ๑ และมิได้เป็นข้อที่จำเลยโต้เถียง ปัญหาทั้ง ๒ ข้อนี้จึงไม่จำกัดต้องวินิจฉัยถึง สำหรับปัญหาข้อ ๑ นั้น เห็นว่าตามพ.ร.บ.ภาษีการค้า ๒๔๗๕ พิกัดอัตราฉะบับที่ ๒ หมู่ที่ ๗ ประเภท ๓ ก.คำว่ากำลังสูงสุดของเครื่องจักร์คิดเป็นแรงม้านี้ หมายความว่าปริมาณสูงสุดแห่งกำลังซึ่งเครื่องจักร์อาจสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ หาใช่หมายความว่าให้เก็บจากเครื่องจักร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งที่มีกำลังสูงสุดดังโจทก์เถียงไม่ จึงเห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้ง ๒ ในข้อนี้ ส่วนข้อฎีกาของโจทก์อีกข้อหนึ่งที่ว่าโจทก์เป็นเทศบาลจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นทบวงการเมืองจึงไม่ควรต้องเสียภาษีนั้น โจทก์มิได้โต้เถียงมาแต่ต้นศาลฎีกา จึงไม่วินิจฉัยให้ จึงให้ยกฎีกาโจทก์

Share