คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกเจ้าทรัพย์ติดตามเรือที่ถูกขโมยไป ไปพบผู้ตายกับพวกอยู่ใกล้ ๆ กับเรือที่ถูกลักนั้น ผู้ตายใช้ปืนลูกกรดยิงจำเลยแต่ไม่ถูก จำเลยยิงผู้ตายข้างหลัง 1 นัด การที่จำเลยยิงผู้ตายเมื่อผู้ตายหนีจากเรือไป 12 วา ปืนที่ผู้ตายใช้ยิงเป็นปืนลูกกรด เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนยิงนายเต็ก ปิ่นทอง ซึ่งกำลังเตรียมจะลากเรือที่ลักมาและลุกขึ้นวิ่งหนี นายเต็กตายเพราะบาดแผลตามที่จำเลยเจตนา
จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้ตายยิงจำเลยก่อน จำเลยยิงผู้ตายขณะวิ่งหนี ไม่เป็นการป้องกันแต่อย่างใด เป็นการกระทำเกินขอบเขตการติดตามทรัพย์จากผู้ร้าย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๘ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์นำสืบว่านายแปลกกับนายเต็กผู้ตายรับซื้อเรือป๊าบ ๑ ลำจากชาย ๒ คน ในราคา ๑๕๐ บาท เรือซ่อนไว้ในป่าข้างทาง นายแปลกกับนายเต็กไปที่บ้านของนายเวียง ขอให้พากระบือไปลากเรือลงแม่น้ำ นายเวียงพากระบือไปตัวหนึ่ง นายแปลกและนายเต็กพาไปที่เรือ เมื่อไปถึงนายแปลกก็พบจำเลยกับพวกอีก ๒ คนยืนอยู่ในป่าหญ้าคา ห่างหัวเรือประมาณ ๕ วา จำเลยถือปืนลูกซองยาว จำเลยพูดว่า พวกมึงลักเรือกูมาหรืออย่างไร นายเต็กตอบว่าผมรับซื้อเขา ๑๕๐ บาท แล้วนายเต็กวิ่งหนี จำเลยยิงตามไป ๑ นัด ส่วนนายแปลกกับนายเวียงนั้นยอมให้จำเลยกับพวกจับกุมแต่โดยดี ข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าวข้างต้นว่า นายเต็กผู้ตายวิ่งหนีไปจากเรือที่ถูกลัก จำเลยติดตามมาพบและยิงนายเต็กข้างหลังล้มตายอยู่กับที่ ห่างเรือ ๑๒ วา นายเต็กผู้ตายมีปืนลูกกรด ๑ กระบอกอยู่ในมือขวา โดยศพนายเต็กนอนคว่ำทับอยู่ ปัญหาที่ว่านายเต็กยิงมาทางจำเลยหรือไม่นั้น นายแปลกพยานโจทก์เบิกความว่า นายเต็กยิงไปทางจำเลย ร้อยตำรวจโทสนั่น ชนพิทักษ์ ผู้สอบสวนเบิกความว่า ได้ความจากนายแปลกว่าจำเลยกับนายเต็กยิงต่อสู้กัน ต่อเมื่อสอบสวนนายแปลกจึงให้การว่าจำเลยยิงนายเต็กฝ่ายเดียวเมื่อพิจารณาประกอบกับของกลางคือปืนและปลอกกระสุนที่ยิงแล้วอยู่ในกระบอกปืน เป็นอันฟังได้ตามที่จำเลยนำสืบว่านายเต็กได้ยิงจริง แต่อย่างไรก็ดี ที่จำเลยเบิกความว่าเมื่อได้ยินเสียงปืน จำเลยจึงได้ยิงสวนไป ๑ นัด ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ยิงสวนไปทันที เพราะบาดแผลที่ศพเป็นบาดแผลถูกยิงใต้สะบักซ้ายด้านหลัง เป็นแผลถูกยิงเมื่อหันหลังหนีแล้ว ไม่ใช่ยิงสวนไปทันควัน การที่จำเลยยิงนายเต็กเมื่อนายเต็กหนีไปจากเรือไป ๑๒ วา ปืนที่นายเต็กยิงเป็นปืนลูกกรด เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๖๙
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘,๖๙ ให้จำคุก ๓ ปี

Share