แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าในวันนัดนั้น ทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลอื่น ข้ออ้างของทนายจำเลยเป็นความจริงทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควร ชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175 วรรค 2 แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและทำการพิจารณาพิพากษาไปเลย จึงเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาศาลฎีกาจึงให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยได้บังอาจใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายพัด ดวงประทุม ๑ นัดโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกนายมุย วินทะไชย ที่ขาขวาได้รับบาดเจ็บ จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลคนทั้งสองจึงไม่ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๖๐, ๙๑ ริบปืนของกลาง
จำเลยรับสารภาพในข้อหามีอาวุธปืน แต่ปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่า
ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลไม่อนุญาตเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลสืบพยานโจทก์โดยไม่อนุญาตให้จำเลยขอเลื่อนการพิจารณาเป็นการพิจารณาไม่ชอบ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ และในวันเดียวกันนั้นเอง จำเลยได้แต่งทนายยื่นต่อศาล ศาลนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๐ ครั้นวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๑๓ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์นั้นทนายจำเลยติดว่าความในคดีอาญามาตราเลขดำที่ ๗๒/๒๕๑๓ ที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้นัดไว้ก่อนศาลชั้นต้นให้รอฟังคำสั่งในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๗๒/๒๕๑๓ ของศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด) แล้ว ปรากฏว่าศาลจังหวัดร้อยเอ็ดได้สั่งในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ ส่งถ้อยคำสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๗๒/๒๕๑๓ ไปขอให้ศาลจังหวัดอุบลราชธานีสืบพยานโจทก์ให้ โดยขอให้ศาลนั้นนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ที่ส่งประเด็นไปสืบ ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๓ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ซึ่งทนายจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวเป็นทนายคนเดียวกับทนายจำเลยในคดีนี้ด้วย และปรากฏด้วยว่าทนายจำเลยได้ไปว่าความที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานีตามวันนัดนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้กรณีทนายจำเลยในคดีนี้ยื่นคำร้องลงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๑๓ ขอเลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ในคดีนี้ ซึ่งศาลชั้นต้นนัดพิจารณาไว้ ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๓ โดยอ้างว่าทนายจำเลยต้องไปว่าความแก้ต่างให้จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๗๒/๒๕๑๓ ที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานีในวันเดียวกันนั้นจึงเป็นความจริง ทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุดอันสมควรชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ตามประมวลกฎ หมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๙ (๒) แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี อันเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาย่อมเป็นการจำเป็นที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๐๘(๒) ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้นชอบ แล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์