แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องอ้างว่า ที่ดินที่โจทก์จำเลยพิพาทกันในคดีนั้นเป็นทางภารจำยอมขอให้บังคับจำเลยขนย้ายกองไม้ที่วางอยู่ในทางภารจำยอมศาลฎีกาพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ ให้จำเลยขนย้ายกองไม้ที่วางอยู่ในทางภารจำยอมออกไป โจทก์ไม่ได้กล่าว และไม่ได้ขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วในทางภารจำยอมในขณะฟ้องคดีก่อนโจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้บังคับจำเลยรื้อในชั้นบังคับคดี แต่ศาลฎีกาให้ยกคำร้อง โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ว่า โจทก์กับบริวารจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะเข้าออกในทางภารจำยอม แต่มีรั้วกีดขวางอยู่ ขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วออกไป เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยเหตุและมิได้มีคำขอให้บังคับจำเลยเป็นอย่างเดียวกันกับคดีก่อน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกนำเศษไม้เข้าไปกองไว้ในทางภารจำยอมทำให้โจทก์และบริวารเสื่อมเสียประโยชน์แห่งภารจำยอมโจทก์ จึงฟ้องนางอ่อนและจำเลยทั้งสองที่ศาลชั้นต้นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 74/2507 ศาลพิพากษาคดีที่กล่าวว่า ทางพิพาทกว้าง 6.40 เมตร เป็นภารจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ นางอ่อนตาย จำเลยที่ 1 รับมรดกที่ดินของนางอ่อนและรับมรดกความได้ขนย้ายแต่กองไม้ออกไปแล้วไม่รื้อรั้ว โจทก์ได้ขอให้จำเลยรื้อรั้ว จำเลยไม่ยอม จึงขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วไม้ออกไป
จำเลยทั้งสองให้การว่า รั้วตามฟ้องมีอยู่นานแล้ว โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นสอบถาม คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงบางข้อ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาให้จำเลยรื้อรั้วออกไปให้พ้นทางภารจำยอม มิให้จำเลยเอาสิ่งหนึ่งประการใดกีดขวางทางภารจำยอมต่อไป ถ้าจำเลยไม่รื้อให้โจทก์เสียค่าใช้จ่ายรื้อเอง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องซ้ำ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีก่อนโจทก์อ้างว่าที่ดินที่โจทก์จำเลยพิพาทกันในคดีนั้น เป็นทางภารจำยอม ขอให้บังคับจำเลยขนย้ายกองไม้ที่วางอยู่ในทางภารจำยอม เมื่อศาลฎีกาพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโจทก์กว้าง 6.40 เมตร จึงบังคับตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ ให้จำเลยขนย้ายกองไม้ที่วางอยู่ในทางภารจำยอมออกไป แต่โดยเหตุที่มีรั้วไม้อยู่ทางด้านตะวันออกของทางภารจำยอมก่อนโจทก์ฟ้องคดีก่อน และจำเลยรื้อรั้วทำใหม่ยาว 5.10 เมตร ด้านใต้ของรั้วมีประตูซึ่งโจทก์ได้ใช้เดินเข้าออกจากทางภารจำยอมกว้าง 1.30 เมตร ตามปกติโจทก์เคยใช้ทางภารจำยอมเดินแต่เพียงเท่าทางเดินที่ตรงประตู โจทก์จึงไม่ได้กล่าวถึง และขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วในขณะฟ้อง โจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้บังคับจำเลยรื้อในชั้นบังคับคดี แต่ศาลฎีกาให้ยกคำร้อง โจทก์จึงฟ้องคดีนี้บรรยายความเป็นมาทำนองเดียวกันกับในคดีก่อน แล้วอ้างว่าโจทก์กับบริวารจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะเข้าออกในทางภารจำยอม แต่มีรั้วกีดขวางอยู่ ขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วออกไป เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยเหตุและมิได้มีคำขอให้บังคับจำเลยเป็นอย่างเดียวกันกับคดีก่อน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปความ