คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2549

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นศาลอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยอาจอุทธรณ์คำสั่งยกคกร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นศาลอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยอาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง มิใช่ภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาวางศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2547 จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้ภายในวันที่ 19กรกฎาคม 2547 แต่จำเลยกลับยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2547 เกินกำหนดเวลา7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 444,992,071.04 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้หรือชำระไม่ครบถ้วนให้ยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นทรัพย์จำนอง ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์พร้อมก้บยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองยากจนไม่มีเงินพอที่จะเสียค่าขึ้นศาล ให้ยกคำร้องหากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้วางเงินค่าขึ้นศาลภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่มีคำสั่ง
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถา
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่าคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองชอบหรือไม่ จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นภายในกำหนด 1 เดือน ดังกล่าว และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองเพื่อส่งไปยังศาลอุทธรณ์จึงถือว่าจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย บัญญัติว่า “ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วน หรือมีคำสั่งยกคำขอเสียทีเดียว ถ้าเป็นการขอฟ้องหรือต่อสู้คดีในศาลชั้นต้น ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่มีคำสั่ง ถ้าเป็นการขอฟ้องหรือต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดเดียวกัน คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้เป็นที่สุด” ตามบทกฎหมายดังกล่าว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นศาลอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองอาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง หาใช่ภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาวางศาลไม่ คดีนี้ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2547 ดังนั้น จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้ภายในวันที่19 กรกฎาคม 2547 แต่จำเลยทั้งสองกลับยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เกินกำหนดเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสอง ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น แต่การที่ศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดเวลาให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟัง ทั้งกำหนดเวลาของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระได้ล่วงพ้นไปแล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดเวลาให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา
อนึ่ง การดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนอนาถาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคท้าย จำเลยทั้งสองเสียค่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่งมา 40 บาท แต่ศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้คืนแก่จำเลยทั้งสอง ศาลฎีกาเห็นสมควรคืนค่าคำร้องดังกล่าว รวมทั้งค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่จำเลยทั้งสองเสียมา 200 บาทแก่จำเลยทั้งสองด้วย”
พิพากษายืน หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไปให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้ คืนค่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง 40 บาท และค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 200 บาท แก่จำเลยทั้งสอง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ.

Share