แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยรับราชการเป็นครู และเป็นทหารกองเกิน ได้ยื่นเรื่องราวขอยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยังมิได้ออกใบสำคัญให้จำเลยไว้ ดังนี้ จำเลยยังไม่อยู่ในฐานะบุคคลที่ได้รับการยกเว้นเรียกเข้ากองประจำการ ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา14 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรับราชการทหาร(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2507 มาตรา 3
จำเลยได้รับหมายเรียกของนายอำเภอ ซึ่งกำหนดให้จำเลยไปรับการตรวจเลือกเข้ารับราชการกองประจำการ ถึงวันนัดจำเลยไม่ไปรับการตรวจเลือก แม้จำเลยจะคิดว่าจำเลยได้รับการผ่อนผันเพราะยื่นเรื่องราวไปแล้ว จึงไม่ไปรับการตรวจเลือกก็ตาม ก็มิใช่อยู่ในข่ายข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 27 ต้องถือว่าจำเลยหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกเข้ากองประจำการตามหมายเรียก ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 45
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ. 2497 มาตรา 27, 35
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือก และความผิดตามมาตรา 27 กับมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 เป็นความผิดที่ต้องมีเจตนาหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน จำเลยจึงไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ใช่ผู้ได้รับการยกเว้นมิให้เรียกเข้ากองประจำการตามกฎหมาย จำเลยมีหน้าที่ต้องไปรับการตรวจเลือกตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายเรียกการที่จำเลยไม่ไปโดยไม่มีเหตุขัดข้องตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 27 ย่อมถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน พิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 27, 45 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78จำคุก 3 เดือน รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยรับราชการเป็นครูและเป็นทหารกองเกิน ได้รับหมายเรียกของนายอำเภอบางกรวยซึ่งกำหนดให้จำเลยไปรับการตรวจเลือกเข้ารับราชการกองประจำการถึงวันนัดจำเลยไม่ไปรับการตรวจเลือก ศาลฎีกาเห็นว่าตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 14 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 3 บัญญัติว่าบุคคลต่อไปนี้ ให้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้ แต่ไม่เรียกเข้ากองประจำการในยามปกติ คือ (5) ครูซึ่งประจำทำการสอนหนังสือหรือวิชาการต่าง ๆ ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม หรือกระทรวงทบวงกรมอื่น ๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงและผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกใบสำคัญให้ไว้ ปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ยื่นเรื่องราวขอยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการเท่านั้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมิได้ออกใบสำคัญให้จำเลยไว้ จำเลยจึงยังไม่อยู่ในฐานะบุคคลที่ได้รับการยกเว้นเรียกเข้ากองประจำการตามกฎหมายดังกล่าว เมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกตามกำหนดหมายนั้น เช่นนี้ แม้จำเลยจะคิดว่าจำเลยได้รับการผ่อนผันเพราะยื่นเรื่องราวไปแล้ว จึงไม่ไปรับการตรวจเลือกก็ตาม ก็มิใช่อยู่ในข่ายข้อยกเว้นที่พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 27บัญญัติไว้ ต้องถือว่าจำเลยหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกเข้ากองประจำการตามหมายเรียก ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 45 จำเลยจึงมีความผิดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน