แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลูกจ้างผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อที่เป็นตัวแทนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ นั้น จะต้องเป็นลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นเหตุให้นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนในสหพันธรัฐมาเลเซีย ได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 และหรือที่ 3 เป็นตัวแทนในการชำระตกลงต่อรอง เรียกร้อง และทวงถามภาษีเงินได้และหรือภาษีอื่นใดทุกชนิดแทนจำเลยที่ 1 ระหว่างรอบปีบัญชีปี 2498-2504 จำเลยที่ 1 ซึ่งประกอบกิจการในประเทศไทยจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมเป็นเงิน66,870.83 บาท โดยโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ทราบแล้ว แต่จำเลยที่ 2 ในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 ปฏิเสธไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระภาษีเงินได้จำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องจำเลยที่ 1 เพราะมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศไม่อยู่ในเขตอำนาจศาล ให้รับฟ้องและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปสำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษายืน ศาลชั้นต้นจึงดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปสำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ 1 เพื่อกระทำการตามหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 เพียงมีชื่อเป็นผู้รับมอบอำนาจอยู่ในหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น จำเลยที่ 3 ไม่ได้ลงมือทำกิจการใด ๆ ตามหนังสือมอบอำนาจแทนจำเลยที่1 จำเลยที่ 2และที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ แต่ตามหนังสือมอบอำนาจจำเลยทั้งสองหาได้มีฐานะเป็นลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการของบริษัทจำเลยที่ 1 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยอันจะพึงต้องรับผิดในการเสียภาษีแทนตามนัยมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรไม่ จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชำระภาษีรายพิพาทแทนจำเลยที่ 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศที่จะมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีตามบทบัญญัติในมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรนั้น จะต้องเป็นลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยคดีนี้จำเลยที่ 1 ประกอบกิจการรับจ้างเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการในประเทศไทย จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นแต่เพียงตัวแทนตามหนังสือมอบอำนาจของจำเลยที่ 1 ในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องภาษีสำหรับเงินได้หรือผลกำไรที่จำเลยที่ 1 ได้มาในการประกอบกิจการของจำเลยที่ 1 ในประเทศไทย อันเนื่องจากลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อคนอื่น ซึ่งมิใช่จำเลยที่ 2 และที่ 3 จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดเป็นส่วนตัวในการยื่นรายการและเสียภาษีตามบทบัญญัติในมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
พิพากษายืน