คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นลูกจ้าง ได้ร่วมกับพวกไปตัดฟันไม้มาทำการแปรรูป โดยไม่มีใบอนุญาตขณะถูกจับกุมจำเลยกำลังนอนเฝ้าไม้เหล่านั้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายจ้าง ซึ่งเป็นผู้มีไว้ในครอบครอง จึงไมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการทำผิดตามกฎประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องใจความว่า ก. จำเลยกับพวกร่วมกันตัดฟันไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๐๕ จำนวนไม่ปรากฏรวมปริมาตร ๙.๒๔ ลูกบาศก์เมตรแล้วร่วมกันมีไม้ประดู่ที่ยังมิได้แปรรูปรวม ๓๖ ท่อน ปริมาตร ๗.๘๙ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกตัดฟันลงไว้ในความครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ข. จำเลยกับพวกร่วมกันแปรรูปไม้ประดู่ในข้อ ก. เป็นแผ่นรวม ๖๐๐ แผ่น ปริมาตร ๑.๓๕ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่า ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร และร่วมกันมีไม้แปรรูป ดังกล่าวไว้ในความครอบครอง โดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้หวงห้ามดังกล่าวข้างต้นเป็นของกลาง และยึดได้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า พร้อมด้วยเลื่อยวงเดือน ๒๐ นิ้ว สายพาน ๑ อัน โม่เล่ ๑ อัน เลื่อยตัด ๑ ปื้น ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๔๘, ๖๙, ๗๓, ๗๔ ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓ ) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๒,๑๗, ๑๘ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๙ พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔ ประกาศกระทรวงเกษตร ฯ เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ลงวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ และให้ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๔๘, ๖๙, ๗๓ ฐานทำไม้จำคุก ๖ เดือน ฐานมีไม้ยังมิได้แปรรูป จำคุก ๖ เดือน ฐานแปรรูปไม้ปรับ ๑,๒๐๐ บาท ฐานมีไม้แปรรูปปรับ ๑,๒๐๐ บาท รวมเป็นโทษจำคุก ๑ ปี ปรับ ๒,๔๐๐ บาท มีเหตุบรรเทาโทษ โดยจำเลยให้การรับชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ เดือน ปรับ ๑,๖๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามมาตรา ๒๙, ๓๐ ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหามีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูป และมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตลงโทษเฉพาะในข้อหาความผิดฐานทำไม้ และแปรรูปไม้ โดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๔๘, ๗๓ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๗ และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๙ ฐานทำไม้ จำคุก ๖ เดือน ฐานแปรรูปไม้ปรับ ๑,๒๐๐ บาท รวมเป็นโทษจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๑,๒๐๐ บาท มีเหตุบรรเทาโทษ เพราะคำให้การของจำเลยชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ เดือน และปรับ ๘๐๐ บาท นอกจากที่แก้ไขนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้วมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูป และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองด้วยหรือไม่ นายสาครพยานโจทก์เบิกความว่า ขณะจับกุมจำเลยบอกว่า ไม้ของกลางเป็นของคนสองคนที่หลบหนี จำเลยเป็นลูกจ้าง คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนก็ว่า นายจุลได้ว่าจ้างจำเลย ให้ค่าจ้างวันละ ๒๐ บาท คดีฟังได้ว่าจำเลยเป็นลูกจ้าง ถือไม่ได้ว่าเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในความครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่อย่างไรก็ดีพฤติการณ์ของจำเลยที่ร่วมกับพวกที่ไปตัดฟันไม้มาทำการแปรรูป โดยไม่มีใบอนุญาตขณะถูกจับกุมจำเลยกำลังนอนเฝ้าไม้เหล่านั้นไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายจ้าง ซึ่งเป็นผู้มีไว้ในความครอบครอง จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๖๙ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๒ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ ฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูป จำคุก ๔ เดือน ฐานมีไม้แปรรูป ปรับ ๘๐๐ บาท รวมจำคุก ๔ เดือน ปรับ ๘๐๐ บาท อีก ๒ กระทง นอกจากที่แก้ไขนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share