แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้รับมอบที่ดินพิพาทจาก อ. ให้ทำกินต่างดอกเบี้ยแม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินในที่พิพาทตลอดจนเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับที่ดินพิพาทก็เป็นเพียงครอบครองแทน อ. เท่านั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 โจทก์จึงยังไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท
จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทโดยซื้อจาก อ. แล้วสิทธิครอบครองของ อ. สิ้นสุดลง จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ 1 แปลงได้มาโดยบุกร้างถางป่าและครอบครองทำประโยชน์ติดต่อกันมา 9 ปีแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2509 จำเลยที่ 1 ที่ 2 เข้าบุกรุกไถนาแย่งทำนาในที่ดินดังกล่าวด้านเหนือและด้านใต้ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาทห้ามเกี่ยวข้องและใช้ค่าเสียหายพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ให้การว่า ที่พิพาทเป็นของนางประจวบ จำเลยที่ 1ไม่ได้บุกรุกเข้าแย่งทำนาโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาท ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
จำเลยที่ 2 ให้การว่าเข้าไถนาและทำนาในที่พิพาทโดยเป็นลูกจ้างของนางประจวบ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของนายอยู่ จิตตะคุ นายอยู่กู้เงินโจทก์แล้วมอบที่ดินให้โจทก์ครอบครองทำกินต่างดอกเบี้ย ต่อมานายอยู่ขายให้นางประจวบภรรยาจำเลยที่ 1 โจทก์ไม่มีสิทธิโต้แย้งแต่อย่างใด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายอยู่ จิตตะคุ กู้เงินโจทก์แล้วมอบที่พิพาทให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยหาได้ยกให้โจทก์หรือนางรำพึงภรรยาโจทก์แทนการใช้หนี้ดังโจทก์นำสืบไม่ แม้โจทก์จะครอบครองทำกินในที่พิพาทตลอดจนเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับที่ดินพิพาท ก็เป็นเพียงครอบครองแทนนายอยู่ จิตตะคุ เท่านั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381แต่ประการใด สิทธิครอบครองที่พิพาทยังคงเป็นของนายอยู่ จิตตะคุโจทก์ยังไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทนี้ ส่วนจำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทโดยซื้อจากนายอยู่ จิตตะคุ ถือได้ว่านายอยู่ จิตตะคุ สละเจตนาครอบครองให้จำเลยแล้ว จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ไม่มีสิทธิโต้แย้งสิทธิของจำเลย
พิพากษายืน