คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่3พูดขู่จะเอาเงินจากพ. เมื่อไม่ได้ดังที่ตนขู่จำเลยที่1ที่3กับพวกก็ได้ร่วมกันทำร้ายพ. ทันทีดังนี้การกระทำของจำเลยที่1ที่3กับพวกเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์แล้ว จำเลยที่1ที่3ช่วยกันรุมทำร้ายพ. เมื่อพ. เรียกให้คนมาช่วยผู้เสียหายกับพวกจะมาช่วย พ. แต่ไม่ทันที่จะเข้ามาช่วยก็ถูกจำเลยที่3กับพวกอีกเกือบ20คนใช้ดาบแทงฟันและใช้แป๊บน้ำตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บทุกคนดังนี้ถือไม่ได้ว่าการที่จำเลยที่1ที่3กับพวกร่วมกันทำร้ายพ. และพวกที่มาช่วยนั้นมีลักษณะเป็นการชุลมุน มีดดาบซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้เป็นมีดดาบปลายแหลมยาวประมาณ1แขนและผลของการกระทำของจำเลยเป็นผลให้ผู้ถูกทำร้ายบางคนได้รับบาดเจ็บถึงกระดูกซี่โครงหักบางคนถูกแทงถึงไส้ทะลักบางคนถึงกับเอ็นของนิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อยขวาฉีกขาดเพราะยกมือขึ้นรับดาบเห็นได้ว่าจำเลยที่1ที่3มีเจตนาฆ่าการกระทำของจำเลยที่1ที่3จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเพราะการกระทำของจำเลยที่1ที่3กับพวกในตอนหลังนี้ก็เพื่อปกปิดการกระทำผิดหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดที่ตนกับพวกกระทำไปแล้วการกระทำของจำเลยที่1ที่3จึงเป็นความผิดตามป.อ.มาตรา289(7)ประกอบด้วยมาตรา80.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83, 92, 289, 340 ที่แก้ไขแล้ว จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 288, 340 ที่แก้ไขแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันพยายามฆ่าซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 3 ไว้มีกำหนดคนละ 12 ปี คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83, 289, 340 ที่แก้ไขแล้ว ลงโทษตามมาตรา 289 ซึ่งเป็นหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 3 ไว้ตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ไม่เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ แต่เป็นความผิดเพียงฐานชุลมุนและบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้รับอันตรายสาหัส นั้นได้ความว่าจำเลยที่ 3 ได้พูดขู่จะเอาเงินจากนายพาน เมื่อไม่ได้ดังที่ตนขู่ จำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกก็ได้ร่วมกันทำรัายนายพานทันทีการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกจึงเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์แล้ว มีปัญหาต่อไปว่าการที่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ใช้มีดดาบทำร้ายนายพานรวมทั้งการทำร้ายนายพานกับพวกอีกหลังจากนั้นจะเป็นความผิดฐานใด ได้ความว่านอกจากการทำร้ายของจำเลยที่ 1 ที่ 3ดังกล่าวแล้ว พวกของจำเลยอีกเกือบ 20 คน ก็ได้ช่วยกันรุมทำร้ายด้วยทั้งได้ความต่อไปอีกว่าเมื่อนายพานเรียกนายพลอย ขวัญใจ ให้ลงจากเรือนมาช่วย นายพลอยกลับถูกจำเลยที่ 3 ใช้ดาบแทงท้องไส้ทะลักต้องกระโดดหนีไปซ่อนตัวที่ใต้ถุนบ้านข้างเคียงอีกคน นายประกตเยาะเย้ย พวกของผู้เสียหายซึ่งลงจากเรือนจะมาช่วยก็ได้ความว่าเมื่อลงมาถึงเพียงแค่ประตูหน้าบ้านก็ถูกจำเลยที่ 3 ใช้มีดดาบฟันอีกคน นายประกตยกมือขวาขึ้นรับ จึงถูกจำเลยที่ 3 ฟันเส้นเอ็นที่มือขาด โดยที่นายประกตยังไม่ทันได้ช่วยอะไรนายพาน นายประกตเบิกความต่อไปว่ามีความกลัวจึงได้รีบหนีขึ้นเรือน แต่จำเลยที่ 3กลังตามขึ้นมาบนเรือนอีก แล้วนายประกตก็ถูกพวกของจำเลยที่ 3คนหนึ่งใช้แป๊บน้ำตีต้นคอถึงกับสลบไปอีกคน การที่จำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกร่วมกันทำร้ายนายพาน นายพลอยและนายประกตผู้เสียหายดังกล่าวไม่มีลักษณะเป็นการชุลมุน จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงไม่อาจอ้างได้ว่าเป็นการชุลมุนต่อสู้กัน การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 เมื่อพิจารณาประกอบมีดดาบซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการกระทำผิดได้ความว่าเป็นมีดดาบปลายแหลมยาวประมาณ 1 แขน และผลของการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นผลให้นายพานได้รับบาดเจ็บถึงกระดูกซึ่โครงหักนายพลอยถูกแทงถึงไส้ทะลักนายประกตถึงกับเอ็นของนิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อยขวาฉีกขาดเพราะยกมือขึ้นรับมีดดาบเห็นได้ว่าจำเลยที่ 1และที่ 3 กับพวกมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหายทั้งสามให้ตาย การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกดังกล่าวก็เพื่อปกปิดการกระทำผิดหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดที่ตนกับพวกกระทำไปแล้วดังโจทก์ฟ้องนั่นเอง หาใช่เกิดจากการที่พวกจำเลยกับพวกผู้เสียหายต่างนั่งดื่มสุราอยู่ในร้านค้าแห่งเดียวกันแล้วจึงเกิดเหตุขึ้นดังที่จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกาไม่การกระทำของจำเลยที่ 1และที่ 3 กับพวก จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7)ประกอบด้วยมาตรา 80 ด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 80, 83ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นฟ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1และที่ 3 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share