คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4556/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น โดยขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาใหม่ซึ่งจะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ถูกยกเลิกเพิกถอนไปได้ ผลเท่ากับเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนั้น จำเลยต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องมีคำสั่งให้จำเลยปฏิบัติก่อน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว อุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ และบังคับจำนอง จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้คดีแต่ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน ๕,๓๘๖,๑๖๙.๒๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๘ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๓๙ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ มิฉะนั้นให้บังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๙๑๒ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน กับให้จำเลยทั้งสามชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๕,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสามจงใจไม่มาศาลและไม่มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้แก่จำเลยทั้งสาม ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์นอกจากนี้ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว มีปัญหาชั้นฎีกาว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คดีได้ความว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาและศาลชั้นต้นได้พิพากษาบังคับจำเลยทั้งสามชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น โดยขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาใหม่ ซึ่งจะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้แก่โจทก์ถูกยกเลิกเพิกถอนไปได้ ผลเท่ากับเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นอยู่ในตัวนั่นเอง ดังนั้น จำเลยทั้งสามต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสามปฏิบัติก่อน เมื่อจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share