แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินเป็นของบุคคลภายนอกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งหมดสัญญาเช่าแล้วไม่ยอมออก กับค้างค่าเช่า ห้องและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การรับว่า ได้เช่าจากโจทก์จริงแต่จำเลยได้ดัดแปลงห้องเช่ามีราคาสูงขึ้น และได้เป็นผู้เช่าที่ดินซึ่งปลูกห้องแถวนั้น แล้วขอฟ้องแย้งให้โจทก์รื้อห้องแถว หรือถ้ารื้อไม่ได้ ก็ให้ใช้ ค่าดัดแปลงห้อง ฟ้องแย้งดังนี้ ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าออกจากห้องเช่าของโจทก์ และเรียกค่าเสียหายด้วย
จำเลยให้การว่า ห้องเช่าเป็นของสามีโจทก์ สามีโจทก์ให้โจทก์เข้ามาเป็นคู่สัญญากับจำเลยในการเช่า โดยฝืนใจจำเลย จำเลยยอมเซ็นสัญญาเช่าโดยไม่สมัครใจ และว่าจำเลยได้ซ่อมแซมดัดแปลงห้องเช่าสิ้นเงินไป ๓๘,๙๘๙ บาท ต่อมาจำเลยได้ให้ตัวแทนไปเช่าที่ดินปลูกห้องแถวรายนี้ได้จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ครั้นโจทก์จะขึ้นค่าเช่าและเรียกเงินกินเปล่าจำเลย ๆ จึงแจ้งให้โจทก์รื้อห้องออกจากที่ดินซึ่งตัวแทนของจำเลยเช่าจากการรถไฟ จำเลยขอฟ้องแย้งด้วยว่า ให้โจทก์รื้อห้องเช่าออกไป ถ้ารื้อไม่ได้ ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย ๓๘,๙๘๙ บาท แก่จำเลย
ศาลจังหวัดสระบุรีสั่งรับคำให้การแต่ไม่รับฟ้องแย้ง โดยอ้างว่า เมื่อจำเลยรับว่าได้เช่าจากโจทก์จริงแล้ว ฟ้องแย้งจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
จำเลยอุทธรณ์ว่า ฟ้องแย้งเกี่ยวกับห้องเช่า หากจำเลยไม่ฟ้องแย้งแต่ไปฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับห้องเช่านี้ในภายหลัง อาจเป็นการฟ้องซ้ำ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ค่าดัดแปลงต่อเติมห้องซึ่งจำเลยฟ้องแย้งนั้น ได้ทำการดัดแปลงต่อเติมตั้งแต่ก่อนที่จำเลยทำสัญญาเช่าห้องจากโจทก์ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าที่โจทก์ฟ้อง พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งขอให้รื้อห้องค่าเสียหายในการต่อเติมนั้น เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมซึ่งเรียกค่าเช่าและขอให้ขับไล่จึงพิพากษายืน