คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีตาม มาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา 249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันปลอมเงินตรา มีเงินตราปลอม และมีเครื่องมือสำหรับปลอมเงินตรา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่าเหรียญกระษาปณ์ของกลางเป็นเหรียญปลอมขึ้นเพื่อใช้อย่างเงินตราของรัฐบาล ของกลางอย่างอื่นก็เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปลอมเหรียญกระษาปณ์นั้น โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันทำเหรียญกระษาปณ์ปลอม และมีเหรียญกระษาปณ์ปลอมไว้เพื่อนำออกใช้ กับมีเครื่องมือปลอมเหรียญกระษาปณ์จริงดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๐, ๒๔๔, ๒๔๖, ๘๓ ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยคนละ ๑๐ ปี คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษลง ๑ ใน ๓ มาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลยคนละ ๖ ปี ๘ เดือน และให้ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าศาลชั้นต้นให้รวมกระทงโทษจำเลยเช่นนั้น ขัดต่อมาตรา ๒๔๘ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นแต่เพียงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๐ บทเดียว นอกจากที่แก้ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา แต่แล้วจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอถอน ศาลฎีกาสั่งอนุญาต
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าเหรียญกระษาปณ์ของกลางไม่เหมือนกับของรัฐบาล โดยแม่พิมพ์ของกลางมีลวดลายไม่เหมือนกันของรัฐบาล เพียงแต่คล้าย ๆ กันเท่านั้น จึงควรต้องฟังว่า เหรียญกระษาปณ์ของกลางนำออกใช้ให้เป็นอย่างเงินตราแท้จริงไม่ได้ และไม่เป็นการปลอมเงินตรา ควรปรับเป็นความผิดได้ตามมาตรา ๒๔๙แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
แต่ในคดีนี้ต้องฟังว่า ผู้กระทำคือจำเลย เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง การที่นายบ่ายเจ้าหน้าที่กองกระษาปณ์ กรมธนารักษ์ พยานโจทก์เบิกความตอนหนึ่งว่า แม่พิมพ์ของกลางมีลักษณะและลวดลายไม่เหมือนของทางราชการ เป็นเพียงคล้าย ๆ กันเท่านั้น ก็ไม่หมายความว่าแม่พิมพ์ของกลางใช้ปลอมเงินตราไม่ได้ โดยปรากฏตามคำเบิกความของเจ้าหน้าที่ผู้นี้ต่อไปว่า เพียงแต่เอาตะไบตบแต่งส่วนที่ไม่เรียบร้อยของเหรียญที่เทออกจากแม่พิมพ์เสียบ้างเท่านั้น ก็อาจนำออกจำหน่ายใช้ได้ทีเดียว ดังนี้กรณีจึงปรับด้วย มาตรา ๒๔๙ ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา ๒๔๐ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยมานั้นขอยกด้วยรูปเรื่องและบทกฎหมายแล้ว
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลยที่ ๒

Share