คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีโจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ต่อมาจำเลยผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ยื่นคำร้องว่ามีเงินของจำเลยที่ขายถั่ว แขกดำได้โดยจำเลยได้จำนำผู้ร้องไว้บางส่วน ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้ได้ส่วนที่เหลือผู้ร้องไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะยึดหน่วงได้ ผู้ร้องแถลงว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้นำไปหักกลบลบหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องแล้วส่วนหนี้ที่เหลือ คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล ดังนี้ เมื่อได้ความว่า เงินที่ขายถั่ว แขกดำของจำเลยในส่วนที่เหลือจากที่จำเลยได้จำนำผู้ร้อง และศาลอนุญาตให้ผู้ร้องนำเงินจำนวนนี้ไปเก็บรักษาไว้เงินจำนวนนี้จึงยังเป็นเงินของจำเลยที่ผู้ร้องเก็บรักษาไว้แทนศาลการที่ผู้ร้องนำไปหักชำระหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้ผู้ร้อง มิได้เป็นการหักกลบลบหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 341 เพราะเงินจำนวนนี้มิใช่หนี้ที่ถือได้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ผู้ร้อง และหนี้ที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องนั้นก็ยังฟ้องร้องกันที่ศาล เป็นหนี้ที่มีข้อต่อสู้อยู่ จึงไม่เป็นกรณีที่จะหักกลบลบหนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธินำไปหักชำระหนี้แก่ผู้ร้องได้ เมื่อเงินจำนวนนี้ยังเป็นของจำเลย โจทก์ย่อมมีสิทธิให้ศาลยึดมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ได้.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อมาจำเลยผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ยื่นคำร้องว่ามีเงินของจำเลยที่ขายถั่วแขกดำจำนวน 3,075 กระสอบ แต่จำเลยได้จำนำผู้ร้องไว้ 1,700กระสอบ ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้ได้ ส่วนที่เหลืออีก 1,375กระสอบ ผู้ร้องไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะยึดหน่วงเพราะผู้ร้องยังไม่ใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์มีสิทธิให้ยึดเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ร้องชำระหนี้แก่โจทก์ได้
วันนัดพร้อม ผู้ร้องแถลงว่าเงินจำนวนนี้ได้นำไปหักกลบลบหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องแล้ว และผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอลดจำนวนทุนทรัพย์ลงและจำเลยไม่คัดค้าน ส่วนหนี้ที่เหลือ คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล่ตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 242/2527 ของศาลจังหวัดสระบุรี โจทก์ไม่มีสิทธิให้ยึดชำระหนี้โจทก์ได้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเงินที่ขายถั่วแขกดำจำนวน 1,375 กระสอบเป็นเงินที่ผู้ร้องได้รับอนุญาตจากศาลให้นำไปเก็บรักษาไว้ ผู้ร้องไม่มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์นี้ โจทก์มีสิทธิให้ยึดเงินจำนวนนี้ได้จึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเงินจำนวนนี้มาวางศาลภายในกำหนด 1 เดือน
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ได้ความว่าเงินจำนวน 444,171.93 บาทเป็นเงินที่ขายถั่วแขกดำของจำเลยจำนวน 1,375 กระสอบ และศาลอนุญาตให้ผู้ร้องนำเงินจำนวนนี้ไปเก็บรักษาไว้ จึงเห็นว่าเงินจำนวนนี้ยังเป็นเงินของจำนวนที่ผู้ร้องเก็บรักษาไว้แทนศาลการที่ผู้ร้องนำไปหักชำระหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้ผู้ร้อง มิได้เป็นการหักกลบลยหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 เพราะเงินจำนวนนี้มิใช่หนี้ที่ถือได้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ผู้ร้องและหนี้ที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องนั้นก็ยังฟ้องร้องกันที่ศาลจังหวัดสระบุรี เป็นหนี้ที่มีข้อต่อสู้อยู่ จึงไม่เป็นกรณีที่จะหักกลบลยหนี้กันได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธินำไปหักชำระหนี้แก่ผู้ร้องได้ เมื่อเงินจำนวนนี้ยังเป็นของจำเลย โจทก์ย่อมมีสิทธิให้ศาลยึดมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ได้”
พิพากษายืน.

Share