คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เวลากลางคืน จำเลยได้ช่วยกันตี และเอาถ่อแทงนายเปลี่ยนถึงแก่ความตาย ที่ตำบลบางลูกเสือ จังหวัดนครนายก ฯ
นายแคลนจำเลยให้การปฏิเสธข้อหา และต่อสู้ว่านายฟุ้งกับนายถึงได้ลงเรือลำ ๑ นายแคลนกับพวกลงเรือลำ ๑ พากันไปตามกระบือ พอถึงลำน้ำหักบางแชแม่นายฟุ้งก็ไปตีเอานายเปลี่ยนนายแคลนหาได้เกี่ยวข้องในการทำร้ายรายนี้ด้วยไม่ ฯ
นายเพงจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลจังหวัดนครนายกพิจารณาแล้วพิพากษาคดีพร้อมด้วยความเห็นของอธิบดีศาลมณฑล ว่านายแคลน นายเพงได้ฆ่านายเปลี่ยนตายโดยเจตนา มีความผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ ให้ลงโทษจำคุกนายแคลน นายเพงจำเลยไว้จนตลอดชีวิต ฯ
นายแคลน นายเพงจำเลยอุทธรณ์คดีต่อมา แต่นายเพงจำเลยตายระหว่างอุทธรณ์ คดีส่วนตัวนายเพงจำเลยเปนอันระงับไป ฯ
ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิจารณาคดีแล้วพิพากษาลงโทษนายแคลนจำเลยยืนตามศาลเดิม ฯ
นายแคลนจำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระราชทานตรวจสำนวนเรื่องนี้ คดีได้ความว่าเมื่อคืนวันเกิดเหตุนายแคลน นายเพงจำเลยกับนายฟุ้งไปเรือด้วยกันลำ ๑ ไปพบนายเปลี่ยนพายเรือสวนทางมาที่ตำบลแชแม่ ผู้ที่มาในเรือนายแคลนได้ทำร้ายนายเปลี่ยนตายจมน้ำอยู่ปรากฎตามคำชันศูจน์พลิกศพว่านายเปลี่ยนถูกทำร้ายมีบาดแผล ๑๑ แห่ง แผลที่ ๑ ถูกตีกระโหลกสีสะแตกทลุในทำให้นายเปลี่ยนตายพนักงานอัยการจึงฟ้องนายแคลน นายเพงคดีนี้ แต่นางเพิ่มมารดานายเปลี่ยนผู้ตายฟ้องนางฟุ้ง หาว่านายฟุ้งฆ่านายเปลี่ยนตายโดยเจตนาอิกสำนวน ๑ นายฟุ้งให้การปฏิเสธข้อหานางเพิ่ม และซัดว่านายแคลนเปนผู้ฆ่านายเปลี่ยน ศาลล่างได้พิจารณารวมกันเห็นว่าพยานนางเพิ่มโจทย์ไม่พอลงโทษนายฟุ้งได้ พิพากษาให้ยกฟ้องของนางเพิ่มเสีย คดีถึงที่สุดเพียงชั้นศาลล่าง ตามสำนวนอัยการโจทย์นี้ได้ความตามคำนายฟุ้งพยานโจทย์ว่า นายแคลนเปนผู้ตีนายเปลี่ยนตาย โดยเกลียดว่านายเปลี่ยนลักเล็กลักน้อยไม่เลือกว่าอะไร เมื่อขณะที่นายแคลนกำลังตีนายเปลี่ยน ๆ ได้ร้องขออย่าให้นายแคลน นายเพงทำร้าย และขอให้นายฟุ้งช่วย ฝ่ายนายฟุ้งก็ได้ร้องห้ามไป แต่นายแคลนหาฟังไม่ ฯ
นายนุ่มพยานโจทย์เบิกความว่า เมื่อได้ยินเสียงคนตีกันนั้นพยานพายเรือเข้าไปดู ได้ยินเสียงคนร้องพยานจำได้ว่าเปนเสียงนายเปลี่ยน และพยานได้ยินนายฟุ้งพูดร้องห้ามตามถ้อยคำที่นายฟุ้งเบิกความเปนพยาน และว่าเมื่อพยานเข้าไปถึงก็พอเขาเลิกตีกันแล้ว พยานได้เห็นแต่คนอยู่ในเรือ ๓ คน คือ นายฟุ้ง นายเปลี่ยน กับนายแคลน แล้วคนทั้ง ๓ ก็แยกย้ายกันไป โจทย์ยังมีพยานที่ได้ยินนายแคลนพูดว่า จะต้องตีนายเปลี่ยนสั่งสอน เพราะมันลักเป็ดลอบและปลา ฯ
ได้ความตามคำพยานโจทย์ดังนี้ ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้า ฯ ว่านายแคลนจำเลยนี้มีพิรุธอยู่ในตัว ที่ให้การในชั้นไต่สวน และชั้นศาลไม่ตรงกัน ฝ่ายนายฟุ้งให้การยืนคำมั่นคง และโจทย์มีพยานเบิกความเจือคำนายฟุ้งอีก คดีจึงฟังเปนจริงได้ว่า ผู้ที่มาในเรือนายแคลน และทำร้ายนายเปลี่ยนนั้น คือ อ้ายแคลนจำเลยนี้เอง และได้ทำให้ตายโดยเจตนาด้วย ซึ่งศาลล่างให้ลงโทษจำคุกอ้ายแคลนตอลดชีวิตตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ นั้น อ้ายแคลนไม่มีทางจะรอดพ้นพระราชอาญาตามกฎหมายได้ ขอพระราชทานพิพากษายืนตามคำตัดสินศาลล่าง ให้ยกฎีกาอ้ายแคลนจำเลยเสีย ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายสำเนาคำพิพากษาศาลจังหวัดนครนายก ความเห็นอธิบดีศาลมณฑล คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษ และฎีกาจำเลย ทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท
การจะควรประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า

Share